Digiqole ad

‘นัฐธารี’ เจน 3 ‘โคคา’ สู้ทุกความท้าทาย 

 ‘นัฐธารี’ เจน 3 ‘โคคา’ สู้ทุกความท้าทาย 
Social sharing
Digiqole ad

เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งธุรกิจร้านอาหาร ที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน สำหรับ โคคาสุกี้ ที่มีชื่อเสียงมายาวนานมากกว่า 65 ปี ซึ่งวันนี้ ไม่ใช่แค่จะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย ในธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องพบกับคู่แข่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย

ก่อกำเนิดโคคา สุกี้ 

แนทนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) หรือ ทายาทรุ่นที่ 3 ของโคคา กรุ๊ป ย้อนเล่าถึงจุดกำเนิดกว่าจะมาเป็นสุกี้โคคาในวันนี้ว่าวันนี้ เราเปิดมา 65 ปี โดยผู้ริเริ่มคือ คุณย่าปัทมา และคุณปู่ ที่หอบเสื่อผืน หมอนใบมาจากเมืองจีน ซึ่งคุณย่าเป็นคนที่ทำอาหารเก่ง และอร่อยมาก เลยเปิดร้านอาหารจีนกวางตุ้งเล็กๆ เป็นบ้านเช่าอยู่ในย่านถนนเดโช มีที่นั่งอยู่ 20 ที่นั่ง ก็ขายจนมีชื่อเสียงขึ้นมา และมีบุคคลที่มีชื่อเสียง มานั่งรับประทานอาหารในร้านค่อนข้างบ่อย จนกลายเป็นลูกค้าประจำเลยก็มี 

แต่อยู่มาวันหนึ่ง ทางเจ้าของบ้าน ก็เพิ่มค่าเช่าบ้านขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งเจ้าของบ้านคงเห็นว่าเราขายดี เลยขึ้นค่าเช่า แต่คุณย่า ตัดสินใจย้ายร้านมาที่ซอยอนุมานราชธน แล้วสร้างตึก 4 ชั้นขึ้นมา ก็ขายอาหารจีนเหมือนเดิม และก็มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่มีลูกค้าจองจัดเลี้ยงเข้ามาถึง 400 ที่นั่งคุณแนทเล่าต่อว่าวันนั้น ไม่รู้ว่า เชฟในครัวเป็นอะไรกันไปหมด อยู่ๆ ก็ดื้อ แล้วพากันเดินออกจากร้านไปเลย คุณย่า และคุณปู่ ก็เลยต้องมานั่งคิดกันว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถทำอาหารสำหรับลูกค้า 400 คนได้ซึ่งนั่น เรียกว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดคำว่าโคคาสุกี้ก็ว่าได้ 

การตัดสินใจครั้งสำคัญ

คุณปู่กับคุณย่า เกิดไอเดียใหม่ ด้วยการนำอาหารสดทุกอย่างมาหั่นใส่จาน รวมถึงผักสด และตั้งหม้อน้ำซุปใบใหญ่ ไว้กลางโต๊ะ แล้วให้ทุกคน ใส่เนื้อสัตว์และผัก ลงในหม้อน้ำซุปเอง จึงทำให้เกิดเป็นสุกี้ อย่างที่ทุกคนได้รับประทานกันในวันนี้ แต่ตอนนั้น คุณปู่ ก็ไม่ได้คิดว่า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และบอกต่อ เพราะการรับประทานสุกี้ในประเทศไทย เป็นอะไรที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจาก ต้นกำเนิดของสุกี้จริงๆ อยู่ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งการจะกินอาหารประเภทนี้ ต้องกินในช่วงที่หนาวจัด แต่ประเทศไทยของเราค่อนข้างร้อน ทำให้ต่อมา คุณปู่ ตัดสินใจติดแอร์เย็นฉ่ำ ภายในห้องอาหาร เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนกรุงปักกิ่ง เลยทีเดียว จนสุดท้ายแล้ว ทำให้สุกี้ กลายเป็นเมนูฮอต สำหรับสมัยนั้นไปเลยทีเดียว 

คุณแนท ย้ำให้ฟังด้วยว่า นอกจากชื่อเสียงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้โคคาดำเนินธุรกิจมาได้นานถึง 65 ปีเป็นเพราะว่า เราเลือกใช้วัตถุดิบในการทำอาหารที่สด และใหม่ในทุกวัน รวมถึง มีความพรีเมี่ยม แบรนด์ของเราไม่ได้สู้ด้วยราคา แต่แบรนด์ของเราเลือกใช้ของที่มีคุณภาพ และดีที่สุด ซึ่งอาจจะทำให้การเติบโตในธุรกิจของเราไม่ได้เติบโตเร็วมากนัก แต่เราก็มีความมั่นคงในธุรกิจที่มากพอ ขณะเดียวกัน โคคา ไม่ได้มีอยู่แค่ในประเทศไทย เท่านั้น วันนี้ เราขยายแบรนด์ของเราไปในต่างประเทศด้วย ทั้งชื่อ โคคา และ Mango Tree ร้านอาหารไทย ที่มีการเติบโตค่อนข้างรวดเร็วในต่างประเทศ  ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 70 สาขาใน 14 ประเทศทั่วโลก 

คุณแนท เล่าว่า Mango Tree เป็นแบรนด์ ที่คุณพ่อ เป็นคนก่อตั้งขึ้นมา และดำเนินธุรกิจมาได้ 30 ปีแล้วในฐานะที่เราเป็นเจนที่ 3 ที่ต้องมาสืบทอดธุรกิจ เลยคิดว่า นี่เป็นอีกความท้าทาย ที่เราจะต้องเผชิญ โดยเฉพาะเรื่องของลูกค้าที่เราจะต้องไม่ทอดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประจำ และลูกค้าเก่า รวมถึงเราต้องพร้อมให้บริการลูกค้าใหม่ด้วย ซึ่งเวลานี้ เรากำลังอยู่ระหว่างการทำรีแบรนด์ ตัวเอง เพื่อให้เรามีความทันสมัยขึ้นสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน 

แนวคิดสำคัญการดำเนินธุรกิจ

ซีโอโอ ทายาทรุ่นที่ 3 ของโคคา ยังพูดถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจด้วยว่าสิ่งสำคัญของการดำเนินธุรกิจ คือความซื่อสัตย์ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เรายึดถือไว้เสมอมา ไม่ว่าเราจะทำงานกับพนักงานของเราเอง หรือ กับลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคัดเลือกวัตถุดิบทั้งหลาย ให้มีความพรีเมี่ยมจริงๆ ขณะเดียวกันเรายังมองด้วยว่า วันนี้ผู้บริโภคจำนวนมาก คำนึงถึงเรื่องสุขภาพมากขึ้น และคิดว่า การกินอาหาร เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะช่วยดูแลสุขภาพให้ผู้บริโภค โคคาของเราจึงรักษาคำมั่นสัญญา และขอเสิร์ฟ อาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งแนวคิดส่วนนี้ เป็นไปตามแนวคิดของคุณพ่อ ที่ตั้งใจไว้ว่า จะไม่เสิร์ฟ อะไร ให้ลูกค้า ที่ไม่เสิร์ฟให้ลูกกิน ขณะที่เราเองเป็นผู้บริหาร ก็ต้องคอยชิมอาหารจากโคคา อยู่ตลอดทุกวัน ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเช็คคุณภาพของอาหาร รวมถึง เพื่อให้ลูกค้าของเรามั่นใจว่า อาหารทุกจาน มีการใช้วัตถุดิบที่สดสะอาด และไม่มีสารเคมี อย่างแน่นอน 

เป้าหมายการเติบโต 

ในการดำเนินของทุกธุรกิจ การวางเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งคุณแนท ย้ำว่า เป้าหมายของโคคา นอกจากการสร้างความเชื่อมั่น และมั่นใจให้กับลูกค้าแล้วในปีหน้า เรากำลังวางแผนที่จะขยายสาขาของโคคาสุกี้ ออกไปอีก 2-3 สาขา ซึ่งปัจจุบันเรามีอยู่แล้ว 4 สาชา ขณะเดียวกัน เราเองก็กำลังมีการปรับโฉมใหม่ให้กับโคคา ให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้นด้วย เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ 

เช่นเดียวกับเป้าหมายชองการเติบโตทางธุรกิจ หากพูดถึงโคคา ในประเทศไทยวันนี้มีการเติบโตไปแล้วกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ส่วนต่างประเทศ ก็มีการเติบโตที่ต่อเนื่องเรื่อยๆ ในทุกปีแนท คิดว่ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเติบโตขึ้นกว่า ช่วงก่อนโควิด น่าจะมาจากการทำโซเชียลมีเดีย ประกอบการการขายผลิตภัณฑ์ อย่างเช่น ซอส (น้ำจิ้มสุกี้ที่เป็นแบรนด์ของเราเอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ที่อยู่ในต่างจังหวัด ที่เรียกร้องกันเยอะมากนอกจากนี้ คุณแนท ยังบอกด้วยว่า ขนมไหว้พระจันทร์ ของโคคา ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียง และถือเป็นสินค้าที่ขายดีมาก ในทุกปี 

ภาพของโคคาในอนาคต 

อย่างไรก็ดี ซีโอโอ โคคา ยังบอกถึงภาพของ โคคาสุกี้ ในอนาคต ที่เธออยากเห็นด้วยว่าแบรนด์โคคาในอนาคตของเรา หากเปรียบเทียบเป็นคนแล้ว ก็จะต้องเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง และมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ ให้มีความเป็นแฟชั่น แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องเป็นคนที่ เหมือนเพื่อนสนิท และเป็นคนรู้ใจลูกค้า ไปพร้อมกับการดูแลเรื่องสุขภาพ พร้อมกัน เป็นเสมือนคนในครอบครัว ที่รู้ใจทุกคน และเข้าใจความต้องการของทุกคนเป็นอย่างดี และไม่เพียงเท่านั้น โคคา ยังต้องเป็นผู้ที่ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะโคคา ของเรา เป็นร้านอาหารที่มีจิตวิญญาณของการบริการอยู่ในหัวใจ 

Facebook Comments

Related post