Digiqole ad

‘ธีรรัตน์’ ดัน พ.ร.บ. สตาร์ทอัพไทย แก้ปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก หวังตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ ดันไทยโตไกลเวทีโลก

 ‘ธีรรัตน์’ ดัน พ.ร.บ. สตาร์ทอัพไทย แก้ปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก หวังตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ ดันไทยโตไกลเวทีโลก
Social sharing

Digiqole ad
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประชุมพิจารณาเรื่องความสามารถของประชาชนในการเข้าถึงกองทุนดิจิทัล เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนที่ต้องการริเริ่มทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือ สตาร์ทอัพ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ คณะกรรมาธิการ ฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ในการตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่ถูกมองข้าม จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมประชุมเพื่อหาทางแนวทางในการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพร่วมกัน
.
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า จากการรับฟังรายงานพบว่า กฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้ของกองทุนดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนที่ต้องการรับการสนับสนุนเพื่อดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพ ไม่สามารถเข้าถึงกองทุนต่างๆ ได้ เช่น การขอเข้ารับทุนต้องเป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม ต้องไม่แสวงหาผลกำไร ต้องไม่ทำลายการแข่งขัน ด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ ไม่สามารถตอบโจทย์ รองรับธุรกิจรูปแบบใหม่นี้ได้ จึงอาจมีความจำเป็นที่ต้องมีกองทุนเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนนักธุรกิจสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ คณะกรรมาธิการฯ เห็นสมควรเร่งให้มีกฎหมาย พ.ร.บ.สตาร์ทอัพแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจรูปแบบใหม่ มุ่งสร้างแบรนด์เมดอินไทยแลนด์ ติดตลาดในเวทีโลกต่อไป
นายแซม ตันสกุล อุปนายกสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ ฯ ว่า ขณะนี้สตาร์ทอัพในไทย อยู่ในลำดับที่ 53 ของโลก และลำดับที่ 11 ของเอเชียแปซิฟิค การลงทุนเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่ยังขาดการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทางภาครัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ซึ่งรัฐบาลจะร่วมลงทุนกับเอกชน มีหลักสูตรขับเคลื่อนธุรกิจสตาร์ทอัพชัดเจน ต่างจากผู้ประกอบการในไทยที่อยู่ในลักษณะลองผิดลองถูก
.
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสตาร์ทอัพไทยเสียโอกาสในการแข่งขันมาก ขาดสภาพคล่องในเงินทุนและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งตลาดไทยขาดการยอมรับภายในโดยทั่วไป และข้อจำกันทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post