ธนกฤต แห่ง Dairy Queen มุ่งมั่น ก้าวสู่‘The Playground for A Sweet Pause’
แดรี่ควีน ผุดคอนเซปต์ร้านรูปแบบใหม่ล่าสุด “DQ Lounge” จุดแวะพักเติมความหวาน ก่อนดันยอดขายโต ย้ำเบอร์ 1 ตลาดของหวานไทย พร้อมประกาศความมุ่งมั่น สู่การเป็น “The playground for a sweet pause” เต็มกำลัง ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดของหวานในไทย
ประกาศจุดยืน
ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือ ไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม “แดรี่ควีน“ ได้ประกาศจุดยืนการดำเนินธุรกิจในช่วงต้นปี ด้วยการเป็น “The playground for a sweet pause” สถานที่สำหรับการแวะพัก และเติมพลังให้กับชีวิต พร้อมพลิกโฉมแบรนด์ใหม่ ภายใต้คาแรกเตอร์ ทันสมัย รักสนุก และมีพลัง (Modern, fun-loving, energetic)
“เรามุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักความสนุกสนาน ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของปีนี้ ก็คือ การมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์พิเศษให้ผู้บริโภคผ่านโมเดลร้านรูปแบบใหม่ในคอนเซปต์ DQ Lounge พื้นที่แห่งการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และสวรรค์ของคนรักของหวานที่จะช่วยเชื่อมโยงผู้บริโภคให้ได้ใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น”
ขยายฐานผู้บริโภค
ผู้จัดการบริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บอกด้วยว่า กลยุทธ์ดังกล่าว ยังช่วยดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่ พร้อมขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขึ้น ตลอดจนสร้างยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่ม ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่พบว่านิยมมองหาร้านที่สามารถแวะนั่งพักผ่อนระหว่างการเดินช้อปปิ้ง ในห้างสรรพสินค้า ในขณะเดียวกันสามารถเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับการสั่งเมนูของหวานมานั่งรับประทาน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและเติมพลังระหว่างวัน”
สำหรับร้าน “DQ Lounge” สาขาแรก คุณธนกฤต เปิดเผยว่า จะตั้งอยู่ในห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ชั้น 1 “โดยสาขานี้ จะมาพร้อมขนาดพื้นที่ทั้งหมด 40 ตารางเมตร และพื้นที่ร้าน จะแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนการให้บริการที่ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเมนู ต่าง ๆ และจุดเด่นคือมีเมนูสุดพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น คือ ของหวานในกลุ่มเบเกอรี่ อาทิ บราวนี่ โทสต์ และ พาร์เฟต์ ที่เป็นกลุ่มเมนูที่สร้างยอดขายให้กับร้านเพิ่มขึ้นถึง 10% รวมถึงการนำผลไม้สดเกรดพรีเมียมมาใช้เป็นที่แรก”
เพื่อสร้างความสุขให้เพิ่มขึ้น ทางร้านยังมีเมนูท๊อปปิ้งที่ผู้บริโภคสามารถสั่งเพิ่มลงในเมนูปกติได้ เช่น กล้วย เลดี้ฟิงเกอร์ โอริโอ้ เป็นต้น ในขณะที่อีก 50% ของพื้นที่ร้านจะเป็นในส่วนโซนโต๊ะและที่นั่งสำหรับรองรับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถนั่งพักและเพลิดเพลินไปกับเมนูต่าง ๆ ของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากร้านเปิดให้บริการพบว่าสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโตมากขึ้นถึง 20%
เตรียมมุ่งเปิดสาขา 2
คุณธนกฤต กล่าวถึงเหตุผลของการเปิด “DQ Lounge” สาขาแรก ด้วยว่า เนื่องจากห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีศักยภาพในการดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในพื้นสูง “ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการของห้างยังมีความหลากหลาย จึงมีความเหมาะสมในการเป็นร้านโมเดลต้นแบบเพื่อเก็บรวบรวมอินไซด์ของผู้บริโภคและนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โปรโมชัน รวมถึงการขยายโมเดลไปยังสาขาอื่น ๆ ต่อไป”
ผู้จัดการทั่วไป ยังบอกด้วยว่า ภายในปี 2567 แดรี่ควีนได้เตรียมเปิดสาขา 2 อยู่ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตลอดจนวางแผนขยายสาขาอย่างน้อย 1 แห่งในทุกจังหวัด ทั่วประเทศ รวมถึงทุกห้างหรือศูนย์การค้าที่เป็นพรีเมียมสโตร์ “เราคาดการณ์กันว่า การเปิดร้านโมเดลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ได้เพิ่มขึ้น 10% รวมถึงผลักดันยอดขายภาพรวมให้เติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นการตอกย้ำ ความเป็นเบอร์ 1 ของวงการไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟไทย และแบรนด์ขนมหวานพรีเมียมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ทุกสไตล์ อร่อยได้ในทุกโอกาส” คุณธนกฤต กล่าวทิ้งท้าย
กระนั้นก็ตาม “DQ Loung” ถือเป็นร้านไอศกรีม ที่ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์แตกต่าง ด้วยการเพิ่มขนาดพื้นที่รองรับการให้บริการที่มากขึ้น พร้อมการตกแต่งร้านที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์น สนุกสนาน และมีพลัง รวมถึงเสริมด้วยเมนูหลากหลายและเมนูสุดพิเศษ ที่ไม่มีเหมือนสาขาทั่วไป และจะเป็นอีกหนึ่งร้านไอศกรีม ที่จะมาตอบโจทย์พฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคให้ครอบคลุม ตลอดจนเป็นจุดเชื่อมโยงประสบการณ์ใหม่ ๆ ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
