ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย(อิสราเอล) เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับไทยด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าจากสถานการณ์ปฏิบัติการภาคพื้นดินที่อิสราเอลมีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงมีการประสานงานจากหลายหน่วยงานที่พยายามช่วยเหลือคนไทยให้ประสบผลสำเร็จ จึงได้มอบหมายให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปกาตาร์และอียิปต์ เพื่อร่วมเจรจาเพื่อช่วยเหลือตัวประกันคนไทยให้กลับประเทศ นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย(อิสราเอล) เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับไทยด้วย

.

1. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง และสถานทูตไทยประจำอิสราเอลว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้น และอันตรายอย่างมาก จึงมอบหมายให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปกาตาร์และอียิปต์วันนี้ โดยข้อมูลของฝ่ายผู้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ในการเจรจากับกลุ่มคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ไม่ว่าจะเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอีกหลายหน่วยงาน เพื่อร่วมประสานงานเจรจาลดความสับสน ตรงนี้ โดยรองนายกรัฐมนตรีซึ่งบินไปเจรจาก็จะช่วยเหลือได้มากขึ้น

.

2. นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลมาว่า แรงงานไทยที่กลับมาแล้วและที่กำลังจะกลับมา จะมีมาตรการชดเชยและยังมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้แรงงานไทยได้กู้อีกไม่เกินคนละ 150,000 บาท เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพต่อไป

.

3. นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย(อิสราเอล) ตามที่กระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้กู้ยืมสำหรับการไปทำงานที่อิสราเอลและหรือเพื่อลงทุนในการประกอบอาชีพ โดยสินเชื่อต่อรายละไม่เกิน 150,000 บาท ลูกค้ารับภาระดอกเบี้ยแค่ร้อยละ 1 ต่อปี โดยรัฐบาลช่วยรับภาระร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี ยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567 นอกจากนี้กระทรวงแรงงานยังมีมาตการเงินชดเชยช่วยเหลือแรงงานไทยคนละ 50,000 บาทนั้นนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการและให้นำไปจัดทำรายละเอียดให้ครบถ้วนเพื่อนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีในครั้งถัดไป

.

4. ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าการเดินทางไปรัฐกาตาร์และสาธารณรัฐอียิปต์ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายน เพื่อพบผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศ เพื่อเจรจาหารือการให้ความช่วยเหลือปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากสถานการณ์ในอิสราเอลโดยเร็วที่สุด รวมถึงยังจะหารือส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีรวมถึงประเด็นอื่นที่จำเป็น

.