Digiqole ad

“ดิจิทัล วอลเล็ต” ต้องไปต่อ เป็นคันเร่งดันศักยภาพเศรษฐกิจไทย

 “ดิจิทัล วอลเล็ต” ต้องไปต่อ เป็นคันเร่งดันศักยภาพเศรษฐกิจไทย
Social sharing

Digiqole ad
เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” เมื่อ 12 ก.พ.67 ให้ข้อมูลถึงความตั้งใจในการทำงานของรัฐบาล ในการใช้เครื่องมือทางการคลัง กรพตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตตามศักยภาพ ซึ่งนโยบายด้านการเงินต้องสอดคล้องกันด้วย และยังแสดงความพร้อมก่อนการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์นี้
เผ่าภูมิ เผยถึงความไม่สอดคล้องระหว่างนโยบายการเงิน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย และนโยบายการคลัง โดยกระทรวงการคลัง โดยอ้างอิงจากถ้อยแถลงล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 ที่คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 1 ซึ่งแจกต่างกับที่เคยหารือร่วมกับกระทรวงการคลังในช่วงกลางปี 2566 ว่าด้วยเรื่องคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ให้อยู่ในกรอบร้อยละ 1-3 เพื่อป้องกันปัญหาเงินฝืดและเงินเฟ้อ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้เหตุผลในถ้อยแถลงว่าด้วย 9 ปัจจัยลบ และ 1 ปัจจัยบวก
ถ้อยแถลงของธนาคารแห่งประเทศไทย เผ่าภูมิ บอกว่ามี 1 ปัจจัยบวก คือ การบริโภคภายในประเทศขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ
หมายความว่ากำลังซื้อในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่แท้จริง แต่เป็นเพราะภาพรวมของเงินเฟ้อมีปัญหา ซึ่งการที่รัฐบาลออกนโยบายช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า และพลังงาน ไม่ได้มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อแต่อย่างใด และแม้ว่าการคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2567 จะอยู่ในภาวะเฝ้าระวังเงินฝืด แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.5
สรุปตามแถลงการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะตกกรอบคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ที่ร้อยละ เป็นการส่งสัญญาณถึงนักลงทุนทั่วโลกที่ไม่ค่อยดีนัก และยังไม่มีนโยบายแก้ไขจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ในทางกลับกัน กระทรวงการคลังดำเนินนโยบายเพื่อเป็นคันเร่งให้เศรษฐกิจพ้นจากระยะเฝ้าระวังเงินฝืด เพิ่มอัตราเงินเฟ้อให้สูงกว่าการคาดการณ์ ส่งสัญญาณให้นักลงทุนเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ความรวดเร็วในการประกาศลดอัตราภาษี หรือโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่หากธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มไม่ออกนโยบายการเงินที่สอดคล้องกับการคลังจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินนโยบายตามแผนที่วางไว้ได้อย่างเต็มที่
ด้านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เผ่าภูมิได้ให้ยืนยันว่านโยบายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ยิ่งดำเนินการได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเคลื่อนตัวได้มากขึ้นเท่านั้น เปรียบเหมือนการให้เคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็งที่หากปล่อยทิ้งไว้มะเร็งจะลุกลาม
ซึ่งนโยบายนี้ต้องผ่านการพิจารณาในสภา และผ่านการตรวจสอบเช่นเดียวกับนโยบายอื่นๆ
เผ่าภูมิ ยังให้คำอธิบายถึงนโยบายบล็อกเชน ที่ถูกท้วงติงว่าจะเป็นการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยสำหรับการสร้างแอพพลิเคชันในระยะสั้น แต่ในความเป็นจริง บล็อกเชนจะถูกสร้างขึ้นเป็นนโยบายเพื่อการใช้งานระยะยาวต่างจากแอพ ฯ เป๋าตังในปัจจุบัน ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนการขัดเกลานโยบาย พร้อมแย้งข้อมูลคาดการณ์ตัวคูณทางการคลังที่อ้างอิงจากการกระจายเม็ดเงินแบบเดิมนั้นไม่สามารถใช้คาดการณ์นโยบายดิจิทัล วอลเล็ตได้ เพราะเงิน 10,000 บาทนี้จะถูกบังคับใช้ภายใน 6 เดือน ไม่มีการจมเงิน เป็นเงินเก็บอย่างแน่นอน
เผ่าภูมิ ตอบคำถามความกังวลเรื่องการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ไว้ว่า เรื่องนี้กระทรวงการคลังได้วางแผนหารือไว้แล้วว่าหากไม่กู้เงินเพื่อดำเนินนโยบายเป็นงบประมาณผูกพันธ์จะขัดต่อกฎหมาย
ยืนยัน การกู้เงินจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้คืนแน่นอนเพราะรัฐบาลจะนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ GDP มารองรับภาระหนี้และชำระให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันนโยบายดิจิทัล วอลเล็ตอย่างเต็มที่
สุดท้ายนี้ เผ่าภูมิได้ฝากถึงทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่ประสานงานร่วมกันเพื่อดูแลความมั่นคงทางเศรษฐกิจควรมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศเดินหน้าต่อไป ผ่านการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกันของทุกหน่วยงาน
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post