‘ดร.สมพล’สร้างความแกร่งให้ ‘ห้างท้องถิ่น’ ตั้งรับ ทัพห้างยักษ์รุกตลาด
ณ วันนี้ อาจจะเห็นได้ว่า มีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับประเทศ กำลังเคลื่อนทัพ ขยายธุรกิจออกไปสู่หัวเมืองสำคัญๆ ในแต่ละภูมิภาคมากขึ้น จนทำให้วันนี้ เหล่าบรรดาห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ต้องออกมาตั้งรับ และปรับตัวให้พร้อม เพื่อให้ธุรกิจของตัวเองยังคงยืนหยัดอยู่ต่อไปได้
ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้ พาร์ค และ วิทยากรด้านการตลาด ระดับหัวแถวของประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจ ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในวันนี้ กำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเกี่ยวพันกับความเจริญเติบโตของแต่ละจังหวัด “หลายๆ จังหวัดในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองท่องเที่ยว หรือแม้แต่เมืองที่เป็นทางผ่าน ต่างก็มีการเติบโต และเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็ทำให้บรรดาห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกในท้องถิ่น มีการขยายตัวตามไปด้วย”
แนวโน้มธุรกิจห้างท้องถิ่น
“เราจะเห็นว่า ห้างที่ตั้งในต่างจังหวัด ต่างมีความตื่นตัวมากขึ้น ในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หาดใหญ่ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ โคราช และมีการแบ่งยกเป็นเซกเมนต์ ขนาด และรูปแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ในจังหวัดนั้นๆ มีจำนวนประชากร และกำลังซื้อในแต่ละเซกเมนต์ มากน้อยแค่ไหน” ผู้บริหาร ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ จึงได้เห็นผู้ประกอบการ หรือ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ค้าปลีก ต่างก็กำลังเร่งศึกษา และออกแบบให้ธุรกิจขอตัวเอง มีความเหมาะสม สอดรับกับการเติบโตของจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของธุรกิจ “ในเวลาเดียวกัน ก็ยังมีการนำเอารูปแบบดิจิทัล และเทคโนโลยี ที่ทันสมัย เข้ามาเสริม เพื่อให้ธุรกิจดูมีความทันสมัยมากขึ้น และเชื่อว่า ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น มีความทันสมัย ไม่ต่างจากห้างในต่างประเทศ”
การเผชิญหน้ากับห้างยักษ์ใหญ่ที่กำลังรุกคืบ
ยิ่งในวันนี้ ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ มีการขยายธุรกิจออกมาจากส่วนกลาง (กรุงเทพฯ) มากขึ้น ซึ่งหลายคนมองว่า อาจส่งผลต่อห้างค้าปลีก ในท้องถิ่นแน่นอน ทว่า สำหรับ ดร.สมพล ผู้บริหารศูนย์การค้าอยุธยา ซิตี้พาร์ค และยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพไมซ์ และการท่องเที่ยวในพระนครศรีอยุธา กลับมองว่า นั่นถือเป็นข้อดี ที่จะมาช่วยเสริมสร้างศักยภาพของจังหวัดให้มีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากขึ้น “ผมเชื่อว่า ทุกธุรกิจค้าปลีก ที่มีการขยายตัวเข้ามาในแต่ละจังหวัด ยกเว้นจังหวัดปริมณฑล จะก่อให้เกิดกำลังซื้อ และการจับจ่ายใช้สอยภายในจังหวัดนั้นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ ในพระนครศรีอยุธยา ที่ผมดูแลศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดของเรา ไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในฐานะที่เป็นเมืองมรดกโลก และเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จังหวัดของเรายังถือเป็น เมืองอุตสาหกรรม และในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะพัฒนาตัวเองให้เป็น สมาร์ทซิตี้ แห่งอนาคต เพราะเราถือว่า จังหวัดของเราเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพมากที่สุด”
ข้อดี–ข้อเสีย
อีกหนึ่งข้อดี ที่ผู้บริหารศูนย์การค้าฯ มองเห็นคือ การสร้างทางเลือกให้กับลูกค้า และผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างดี “ขณะเดียวกัน การเข้ามาของห้างยักษ์ใหญ่ ยังทำให้เกิดสีสันของเมือง ที่จะช่วยผลักดันให้จังหวัดมีการเติบโต และมีศักยภาพมากเพียงพอในการดึงดูดผู้คนจากจังหวัดอื่น หรือแม้แต่นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ เข้ามาภายในจังหวัดมากขึ้น ตลอดจนได้เห็นความแปลกใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา” ผู้บริหารศูนย์การค้าฯ ยังมองว่า ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ ไม่ได้เป็นคู่แข่งแต่อย่างไร “ผมมองว่า เป็นการมาช่วยส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน โดยไปพร้อมๆ กับการการกระจายรายได้ ในเชิงเศรษฐกิจ ไปสู่ชุมชนต่างๆ ในท้องถิ่น ทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น”
ส่วนข้อเสีย ก็มีบ้างเหมือนกัน เพราะเป็นการทำให้ ห้างท้องถิ่น อาจต้องทำงานหนักขึ้น ในการวางแผน หรือ สร้างกลยุทธ์ “อาจต้องใช้สรรพกำลังทุกอย่างที่มี มาเพื่อปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมของห้างท้องถิ่นไว้ให้ได้ โดยในส่วนนี้ อาจจะทำให้ผู้ประกอบการรู้สึกเหนื่อย และต้องคิดถึงการนำรูปแบบใหม่ๆ มาพัฒนาธุรกิจห้างท้องถิ่นของตัวเอง ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค”
ปรับตัว–สร้างการเปลี่ยนแปลง
ผู้บริหารศูนย์การค้า ยังมีข้อแนะนำ สำหรับการปรับตัวของห้างฯ ท้องถิ่น ด้วยว่า วันนี้ ห้างท้องถิ่น จำเป็นต้องทำความรู้จัก กับพฤติกรรมของประชาชนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ที่อยู่ในจังหวัดของตัวเองก่อน “เราต้องรู้ว่า กลุ่มเป้าหมายของเราในแต่ละเซกเมนท์ ต้องการอะไร ไปพร้อมๆ กับการปรับรูปแบบของห้างฯ ให้สอดรับกับผู้เข้ามาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการมองหาร้านค้า และการบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งร้านค้า หรือ บริการที่เข้ามาอยู่ภายในห้างนั้น จะต้องมีความเหมาะสม กับลูกค้า และกำลังซื้ออย่างดีที่สุด”
นอกจากนี้ ในส่วนของห้างฯ ก็ต้องมีการจัดกิจกรรม หรือ อีเว้นท์ ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย “กิจกรรมที่จัด ต้องไม่มีความซับซ้อนเกินไป และต้องแก้ Pain Point ทั้งตัวห้าง และตัวลูกค้า ซึ่งต้องสอดรับกับความต้องการ อย่างแต่ก่อน ห้างฯท้องถิ่นอาจจะมีพื้นที่เปิดโล่ง เป็นพื้นที่หลัก ก็อาจจะปรับให้มีความร่มรื่น และมีความเป็น Indoor ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และรองรับการจัดกิจกรรมที่จะมีในอนาคต”
“นอกจากนี้ ยังต้องทำให้ห้างมีความว้าว! และมีความสวยงามที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ หรือแม้แต่การจัดหาวัสดุที่มีความคงทน ร่วมกับการออกแบบที่จะสร้างความโดดเด่นสวยงาม ให้ทันยุคสมัย และที่สำคัญ คือจะต้องนำเทคโนโลยี และรูปแบบของดิจิทัล มาใช้ให้มากขึ้น ดึงความยูนึก พร้อมกับสอดแทรกเรื่องราวลงไปในตัวของห้าง ที่จะยังความมีกลิ่นอายของความเป็นจังหวัดรวมอยู่ด้วย”
พร้อมรองรับธุรกิจในอนาคต
กระนั้นก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ ผู้บริหารศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ตอกย้ำ ในธุรกิจห้างฯท้องถิ่น คือ การสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง รวมถึง การเตรียมความพร้อม ให้เกิดการรองรับให้เกิดการใช้งานของพื้นที่ของห้าง หรือ ศูนย์การค้า ที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่นการจัดเตรียมพื้นที่ หรือ ห้องประชุมที่ได้มาตรฐานระดับสากล สำหรับการจัดประชุมสัมมนา ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับ กลุ่มผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่จะเข้ามาเมืองไทยมากขึ้นในปีหน้า หรือ ในอนาคต “ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าเราปรับตัวทัน และมีความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย หรือ คนท้องถิ่นอย่างจริงจัง ก็จะทำให้ธุรกิจห้างของเรา ยืนหยัดในความเป็นธุรกิจท้องถิ่น และเติบโตอย่างยั่งยืน และอยู่เคียงข้างประชาชน กลุ่มผู้บริโภค ในจังหวัดต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
หากวันนี้ ห้างฯ ท้องถิ่น ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามปรับตัวเอง รวมถึงศึกษากลยุทธ์ใหม่ๆ มาใช้ ก็เชืาอมั่นว่า ห้างฯ ท้องถิ่น ก็จะยังคงยืนหยัด และยืนเป็นที่ 1 ได้อย่างสง่างาม และตลอดไป..
