Digiqole ad

‘ดร.คฑา ชินบัญชร’ เผยเคล็ดลับสร้างดวง เฮง-รวย-ปัง วันไหว้พระจันทร์

 ‘ดร.คฑา ชินบัญชร’ เผยเคล็ดลับสร้างดวง เฮง-รวย-ปัง วันไหว้พระจันทร์
Social sharing
Digiqole ad

เป็นที่รู้กันดีว่า วันที่ 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ตามปฏิทินจันทรคติของจีน เป็นอีกหนึ่งวันที่คนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีน ให้ความสำคัญ นั่นคือ วันไหว้พระจันทร์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 10 กันยายน 2565 และด้วยเทศกาลนี้ ทางหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ได้รับเกียรติอย่างสูง จาก ดร.คฑา ชินบัญชร หรือ อาจารย์คฑา มาบอกเล่าเรื่องราวของเทศกาลไหว้พระจันทร์ พร้อมกับเผยเคล็ดลับ ไหว้พระจันทร์ อย่างไร ให้เฮง รวย และ ปัง 

ประวัติเทศกาลไหว้พระจันทร์

ก่อนที่จะไปเรียนรู้เคล็ดลับความปัง ดร.คฑา ชินบัญชร ได้เล่าประวัติของเทศกาลไหว้พระจันทร์ให้ฟังว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ (Moon Festival) หรือที่ภาษาจีน เรียกว่า จงชิวเจี๋ย มีความหมายถึง เทศกาลในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง และถือเป็นวันที่พระจันทร์เปล่งแสงสวยงามที่สุดตามวัฒนธรรมของชาวจีน มีการตั้งเทศกาลนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร รวมไปถึงเพื่อเป็นการบอกกล่าวไปถึงลูกสาว ที่แต่งงานออกจากบ้านไปแล้ว ให้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด และอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว 

วันต้นกำเนิดขนมไหว้พระจันทร์ 

อาจารย์คฑา ยังบอกด้วยว่า ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่ถือกำเนิดในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ของทุกปีนี้ ยังเป็นวันต้นกำเนิดของขนมไหว้พระจันทร์ด้วยและกลายเป็นขนมที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาล ที่ใช้ไหว้เทพเจ้า เหตุผลที่เรียกว่า ขนมไหว้พระจันทร์ ก็เพราะตัวขนม มีลักษณะกลมดุจดั่งดวงจันทร์เต็มดวง และเป็นขนมสำคัญที่ชาวจีนที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก ต้องใช้ในเทศกาล เพื่อให้สมาชิกทุกคนในครอบครัว ที่มาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา กินร่วมกัน พบปะและพูดคุย รวมถึงใช้เวลาแห่งความสุขของเทศกาลด้วยกัน 

การจัดโต๊ะไหว้พระจันทร์

สำหรับวิธีการจัดโต๊ะไหว้ สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ นั้น อาจารย์คฑา แนะนำว่า ควรตั้งโต๊ะไหว้ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จากนั้น ด้านนอกสุดของโต๊ะ ต้องตั้งเป็นขนม ผลไม้ ซึ่งขนมและผลไม้ที่ใช้ต้องเป็นรูปทรงกลม หรือสีเหลือง สีแดง และสีส้ม 

จากนั้นถัดมาอีกแถว ให้ตั้งเป็นขนมไหว้พระจันทร์โดยจำนวนขนมที่ใช้ ควรอยู่ที่ 4 ชิ้น 4 ไส้ ที่เป็นมงคล เพื่อแทน 4 ฤดูใน 1 ปี คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ขณะที่แถวต่อมา ควรจะให้เป็นที่ตั้งของสิ่งของสวยงาม เพื่อก่อให้เกิดพลังของพระจันทร์โดยของที่ตั้งนั้น จะต้องเป็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความงาม ไม่ว่าจะเป็น กระจกเงา แป้งผัดหน้า เครื่องสำอาง ลิปสติก เครื่องประทินผิว หรือ ครีมบำรุงผิว ต่าง เพื่อรับพลังของพระจันทร์ 

สำหรับแถวถัดมา ให้ตั้งน้ำชา โดยสามารถใช้ 4 หรือ 5 ที่ก็ได้ (หากเป็น 4 ที่ จะแทนฤดูทั้ง 4 ส่วน 5 ที่จะใช้แทนธาตุทั้ง 5 ประกอบด้วย ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุทอง) หรือหากไม่มีน้ำชา อาจารย์คฑา ก็แนะนำว่า สามารถใช้น้ำเปล่าใส่ขัน หรือ ชามใหญ่ๆ ก็ได้ เพื่อเป็นการสะท้อนเงาพระจันทร์ เกิดเป็นสิริมงคล ในระหว่างการไหว้พระจันทร์

สตางค์น้อยก็ไหว้พระจันทร์ได้

สำหรับใครที่ยังมีสตางค์น้อย หรือหากไม่สะดวกในการหาสิ่งของต่างๆ ที่แนะนำไปข้างต้น หรือ มีของไหว้ไม่ครบ อาจารย์คฑา ก็แนะนำว่า สามารถใช้ขนมไหว้พระจันทร์ หรือ ขนมอะไรก็ได้ 4 ชิ้น กับน้ำชาก็ได้ เพราะสิ่งสำคัญของการไหว้พระจันทร์นั้น อยู่ที่จะต้องมีความตั้งใจ และต้องนึกถึงพระจันทร์ รวมถึงมีความเชื่อมั่น และการอธิษฐานอย่างจริงใจ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไหว้พระจันทร์

หลังจากที่ได้รู้วิธีการจัดโต๊ะไหว้ อย่างถูกต้องไปแล้ว ก็มาถึงเคล็ดลับ การไหว้พระจันทร์ ที่จะทำให้เฮง รวย และปัง ซึ่งอาจารย์คฑา ชินบัญชร บอกว่า ควรไหว้พระจันทร์ในข่วงหัวค่ำ และเห็นพระจันทร์ขึ้นแล้ว แต่ไม่ควรเกิน 21.00-22.000 . (หรือ 3-4 ทุ่ม) เพราะตามโบราณแล้ว ไม่นิยมไหว้ เมื่อพระจันทร์เลยหัวไปแล้ว

สำหรับอุปกรณ์การไหว้ ให้ใช้ธูป 3 ดอก หรือ 5 ดอก ซึ่งอาจจะจุดธูป หรือไม่ต้องจุดก็ได้ รวมถึงต้องมีเทียนแดง 1 คู่ และต้องมี เจฉ่าย (วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้ เห็ดหูหนูดำ เห็ดหูหนูขาว ดอกไม้จีน และเห็ดหอมมาจัดวางไว้บนโต๊ะไหว้ และอีกหนึ่งเคล็ดลับ ที่อาจารย์คฑา บอกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยการไหว้พระจันทร์ ควรให้ผู้หญิงในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น คุณแม่ คุณย่า คุณยาย หรือพี่สาวคนโต เป็นคนนำไหว้ หรือ ปักธูปอธิษฐานเป็นคนแรก ก่อนผู้ชาย และผู้หญิงที่จะนำไหว้นั้น ควรเกล้าผมเปิดท้ายทอย เพื่อให้เนินไท้อิมรับพลัง จากแสงจันทร์อย่างเต็มที่ 

เสริมความปังด้วยบทคาถาบูชาพระจันทร์

นอกจากนี้ ในระหว่างการไหว้ ควรสวดมนต์ด้วยคาถา บูชาพระจันทร์ ในบทที่ว่าโอม จันทรา ศศิประภา นะมาฮา นะโม ไท้อิม ผู่สัก ม่อ ฮ่อ สัก ขอบารมีแห่งองค์จันทราเทพ จันทราเทวี ได้โปรดดลบันดาลประทานความสงบร่มเย็น ความรักที่มั่นคง ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ แก่ครอบครัวอาจารย์คฑา กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทำพิธีไหว้พระจันทร์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ลาขนมไหว้พระจันทร์ แล้วมาตัดแบ่งแจกให้สมาชิกในครอบครัวได้กินขนมไหว้พระจันทร์ด้วยกัน  และหากครอบครัวใด อยากมีลูก หรือทายาทเพิ่ม ก็ให้ตัดแบ่งขนมเพิ่มขึ้นอีก 1 ชิ้น แล้วให้สามีเป็นคนป้อนขนมชิ้นนั้น ให้กับภรรยากิน 

ทั้งนี้ วันไหว้พระจันทร์ ถือเป็นวันที่พระจันทร์มีความงดงาม และทรงพลังที่สุด ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง  เพื่อให้ทุกคนในบ้านมีความสุข มากขึ้น ควรชวนสมาชิกทุกคนในบ้าน มากินขนมไหว้พระจันทร์ พร้อมกับจิบน้ำชา แล้วชมพระจันทร์ด้วยกัน 

Facebook Comments

Related post