
‘ญี่ปุ่น’รับมอบวัคซีนโควิด-19 ฝีมือไฟเซอร์ ชุดสาม กว่า 5 แสนโดส

โตเกียว, 2 มี.ค. (ซินหัว) — ญี่ปุ่นได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐฯ และบริษัทไบออนเทค (BioNTech) ของเยอรมนี ชุดที่ 3 จำนวน 526,500 โดส ซึ่งถูกส่งมอบจากเบลเยียมมาถึงท่าอากาศยานนาริตะใกล้กรุงโตเกียว เมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.)
ญี่ปุ่นได้รับวัคซีนครึ่งแรกจากจำนวนที่กำหนดไว้ที่ 2.66 ล้านโดส ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับอย่างครบถ้วนในเดือนมีนาคม ขณะที่ทางการเดินหน้าขยายโครงการวัคซีนให้ครอบคลุมบุคลากรการแพทย์มากขึ้น
รัฐบาลวางแผนเริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ 4.7 ล้านคนทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ตามด้วยประชาชนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปอีก 36 ล้านคน ซึ่งมีกำหนดเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. พร้อมเสริมว่าผู้ที่มีโรคประจำตัวและพนักงานประจำสถานดูแลผู้สูงอายุจะได้รับวัคซีนก่อนที่โครงการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปจะเริ่มขึ้น
ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงปฏิรูปการปกครองของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลกระบวนการฉีดวัคซีน ระบุว่ารัฐบาลกำลังวางแผนรับมอบวัคซีนให้เพียงพอต่อการจัดสรรแก่กลุ่มบุคลากรการแพทย์และผู้สูงอายุทั้งหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
ไฟเซอร์เปิดเผยว่าญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ขนส่งและจัดเก็บวัคซีนในตู้แช่แข็งอุณหภูมิปกตินานสูงสุดสองสัปดาห์ เพื่อแจกจ่ายวัคซีนให้ครอบคลุมสถานพยาบาลมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสถานพยาบาลที่ไม่มีตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำพิเศษ ซึ่งในตอนแรกเคยถูกกำหนดให้มีเพื่อใช้สำหรับเก็บรักษาวัคซีนที่อุณหภูมิระหว่าง -80 ถึง -60 องศาเซลเซียส
ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำข้อตกลงกับไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และโมเดอร์นา (Moderna) เพื่อสำรองวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประชากร 126 ล้านคนในประเทศขณะเดียวกันเมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.) คัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าญี่ปุ่นเริ่มการศึกษาทางคลินิกกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ฝีมือผลิตของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งถูกกำหนดให้ฉีดเพียงโดสเดียวด้วย
ทั้งนี้ วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาถูกกำหนดให้แบ่งฉีด 2 โดส ขณะวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นวัคซีนตัวแรกที่ผ่านการรับรองในสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้ฉีดเพียง 1 โดส
อนึ่ง ญี่ปุ่นเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนระยะแรกสำหรับบุคลากรการแพทย์ 40,000 คน ณ โรงพยาบาล 100 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.