Digiqole ad

ญาติแจงเป็นอุทาหรณ์ พี่สาวกินส้มติดคอเสียชีวิต เหตุจากหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินมาช้าเพราะรอคำสั่ง

 ญาติแจงเป็นอุทาหรณ์ พี่สาวกินส้มติดคอเสียชีวิต เหตุจากหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินมาช้าเพราะรอคำสั่ง
Social sharing

Digiqole ad

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก jeeranan Meepha ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์กรณีพี่สาวของสามีทานส้มแล้วติดคอชีวิตว่า…

 

😭 วันแห่งการสูญเสีย…กับความทรงจำที่แย่มาก!
ทานส้มเขียวหวาน ติดคอ เสียชีวิต!

เมื่อเกิดเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน 1669 ช่วยเราได้จริงหรือ?

ปกติ เป็นคน…ไม่เคยเขียนอะไรที่เกี่ยวกับความทุกข์ ความไม่สบายใจ ไม่พาดพิงถึงคนอื่น แต่ครั้งนี้ ที่เขียนเพื่อเป็นข้อเตือนใจ ไม่อยากให้เกิดแบบนี้กับครอบครัวของทุกคน ลองอ่าน…ให้จบ เพื่อช่วย รักษาชีวิต คนที่เรารักได้

วันอังคารที่ 3 มกราคม 2566 เวลา 07.30 น. พี่สาวคนโตของ “พี่มานพ” ได้เสียชีวิตลงด้วยการ “กินส้มเขียวหวาน ติดคอ”

การช่วยเหลือผู้ป่วย “อาหารติดคอ” เราได้พยามทำตามที่คลิปต่างๆ แนะนำไว้ เข้าไปยืนด้านหลัง เอามืออ้อมมาประสานใต้ลิ้นปี่ แล้วรัดกระตุกหน้าท้อง ตบหลัง

แต่เพราะเป็น “ส้มเขียวหวาน” เป็นกลีบ แบนๆ เวลาเข้าไปติดในลำคอ จะไม่ยอมหลุดออกมาง่ายๆ ไม่เหมือน ลูกชิ้น น้ำ หรืออาหาร ที่เป็นชนิดกลมๆ จะหลุดออกมาได้ง่ายกว่า!

ยิ่งคนไข้ มีน้ำหนักตัวเยอะ พยุงไม่ไหว ต้องใช้ 4-5 คนช่วย แต่คิดว่าคงไม่สำเร็จ ในระหว่างที่ทุกคน…กำลังช่วยชีวิต!

สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือ โทรไป 1669 ศูนย์นเรนทร เพื่อขอความช่วยเหลือ ทีมกู้ชีพด่วน! เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ ที่มีประสบการณ์ เครื่องมือพร้อม!

เวลา 07.40 น. เราโทร 1669 เจ้าหน้าที่ ศูนย์นเรนทร รับสาย ซักประวัติ ถามว่าอาการเป็นอย่างไร แนะนำขั้นตอนการช่วยเหลือ ซึ่งเราก็ตอบประวัติทั้งหมด และบอกว่าขั้นตอนที่คุณแนะนำ ขณะนี้เราได้ดำเนินการทำมาหมดแล้ว เจ้าหน้าซักแบบละเอียดยิบ!!! ใช้เวลานาน จนเราต้องบอกว่า ตอนนี้…คนไข้ชีพจรเต้นช้ามาก!!! ขอช่วยส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยด่วน!

ในระหว่างรอ พวกเราก็ช่วยกันปฐมพยาบาลตามคำแนะนำ แต่ด้วยคนไข้น้ำหนักตัวเยอะ ยก 2-3 คน ยังแทบไม่ไหว รอความหวังจากเจ้าหน้าที่จะมาช่วยเหลือได้ทันท่วงที!

เวลา 07.51 น. เจ้าหน้าที่โทรกลับมาถามว่า ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง เราตอบไปว่า ตอนนี้คนไข้…ชีพจรเต้นอ่อนมาก มือ เช้า ปากซีด หมดแล้ว กำลังทำ CPR ช่วยชีวิต!!!

เวลา 08.11 น. เจ้าหน้าหน่วยกู้ชีพ เบสิก (เน้นว่า เบสิก) หมายถึง ทีมช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น! ไม่ได้มีอุปกรณ์มากไปกว่าทีมกู้ชีพ มูลนิธิต่างๆ ทั่วไป! เจ้าหน้าที่ โทรมาสอบถามอาการ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เพิ่งได้รับคำสั่งให้นำรถและทีมออกมาช่วยเหลือ!!!

นั่นหมายความตั้งแต่เวลา 7.40-8.11 น. รวมเวลา 30 นาที ที่เราโทรไปแจ้ง เจ้าหน้าที่ทางศูนย์ฯ รอประเมินอาการ ไม่ได้ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่มาช่วยในทันที!

รอเวลาผ่านไป 30 นาที เจ้าหน้าที่จากรถกู้ชีพเบสิก โทรมาถามอาการ พอรู้ว่าคนไข้ไม่รู้สึกตัว ชีพจรหยุดเต้น จึงได้ขอกำลังเสริมทีม”กู้ชีพ แอดวานซ์” จาก รพ.นพรัตน์ ที่มีเครื่องมือช่วยชีวิตครบ เครื่องปั้มหัวใจอัตโนมัติ ยาฉีดกระตุ้นหัวใจ ฯลฯ

⏰ 30 นาทีแห่งชีวิต 30 นาที…ที่พลัดพราก เวลาทุกวินาที เป็นสิ่งที่มีค่า!

ถามว่า ศูนย์นเรนทร ดีไหม ตอบได้เลยว่า..ดี ดีว่าไม่มีศูนย์ไว้ช่วยเหลือในยามวิกฤติของชีวิต

แต่สิ่งที่แย่ คือ…เจ้าหน้าที่ ประเมินอาการ ถ้าเป็นญาติ พี่น้อง พ่อ-แม่ ของคุณเอง คุณจะปล่อย…เวลาเนิ่นนาน แบบนี้ไหม?

การประเมินอาการ เวลาแต่ละวินาที คือเวลาการยื้อชีวิตของคนไข้ ถ้าคุณส่งทีมมาช่วยได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่คนไข้จะรอดชีวิตก็สูงมากเท่านั้น!

📍ฝากไปถึงผู้บริหารศูนย์นเรนทร 1669 ไว้เป็นข้อคิด และควรปรับปรุง! เจ้าหน้ารับเรื่อง พิจารณา ประเมินอาการ คุณต้องมีจิตสำนึกเสมอว่า…ชีวิตของคน มีค่า อย่าเสียเวลา กับความคิดที่ว่า…คงไม่เป็นอะไรมาก! แค่นี้เอง รอประเมินการก่อน เดี๋ยวค่อยไปช่วยก็ได้ แต่สุดท้าย…วิญญาณ ก็ได้หลุดจากร่างไปแล้ว!!!

ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เกิดกับผู้ป่วยรายต่อๆ ไป เจ้าหน้ารับเรื่อง ประเมินอาการ คุณต้องมีจิตสำนึก และตระหนักเสมอว่า…เวลา ความรวดเร็ว เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด สำหรับชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ ในช่วงวิกฤติ ความเป็น ความตายของชีวิต!

📍สิ่งที่ทุกคน ควรมีคือ เบอร์โทรมูลนิธิ และเบอร์ รพ.เอกชน ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด Save เบอร์ไว้ในมือถือ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน รถมูลนิธิ จะมาช่วยเราได้เร็วสุด! อย่านึกถึงแต่ 1669 อย่างเดียว เราต้องมีทางเลือก…เราถึงจะรอด ฝากไว้ให้คิดนะคะ

สรุป…ความคิดเห็นส่วนตัว นับจากนี้ไป ถ้ามีเหตุการณ์วิกฤติ มีความเป็นความตายของชีวิตคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ขอเรียกใช้บริการ
1. “รถฉุกเฉิน” รพ.เอกชน ที่ใกล้ที่สุด!
2. รถกู้ชีพของมูลนิธิที่อยู่ใกล้สุด เข้ามาเพิ่มอีก 1 ทางเลือก
3. ศูนย์นเรนทร 1669

ทีมไหนมาถึงก่อน ช่วยได้ก่อน “ยอมเสียเงิน” เพื่อแลกกับนาทีชีวิต…ของคนที่เรารัก 🖤

🙏 กำหนดการสวดพระอภิธรรม
(🚫 งดรับพวงหรีด )

คุณมลฤดี แซ่เตียว

– รดน้ำศพ วันอังคารที่ 3 มกราคม 2566 เวลา 17.00 น.
– สวดพระอภิธรรม ศาลา 5 เวลา 18.30 น.
วันอังคารที่ 3- วันศุกร์ที่ 4 มกราคม

ฌาปณกิจ วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2566 เวลา 16.00 น. ณ วัดบางเพ็งใต้ (ตลาดน้ำขวัญ-เรียม) รามคำแหง 187

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post