Digiqole ad

 ซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19

  ซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19
Social sharing
Digiqole ad

 

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายวัน​ ประกอบกับแนวโน้มที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นสูงจากการเดินทางกลับมาทำงานหลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์​ จึงมีมาตรการรักษาระยะห่างที่เข้มงวดมากขึ้น​เพื่อลดความเป็นไปได้ในการติดเชื้อ​ ซึ่งน่าจะช่วยให้สถานการณ์​กลับมาช่วงก่อนการระบาดรอบ​ 3 นี้ได้ดีขึ้น​ คาดว่าจะเห็นการผ่อนคลายได้ในอีกหนึ่งถึงสองเดือน แต่ในภาวะผู้ติดเชื้อที่จะลดลง​ สภาพเศรษฐกิจ​ไทย​ช่วงไตรมาสที่สองก็อาจไม่สดใสอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า​ โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจ​จากมาตรการป้องกัน​โค​วิด​นี้​ มีได้หลายช่องทางดังนี้

  1. การเดินทาง​ท่องเที่ยวลดลง​ กระทบธุรกิจโรงแรม​ ร้านอาหาร​และขนส่ง
  2. รายได้กลุ่มอาชีพอิสระ​ ค้าขายลดลง​ เพราะคนออกนอกบ้านน้อยลง​ และระมัดระวัง​การใช้จ่าย​ กระทบร้านค้ากลุ่มอาหาร​ เครื่องดื่ม​ และค้าปลีกอื่นๆ
  3. ความเชื่อมั่นการบริโภคลดลง​ กระทบสินค้าขนาดใหญ่​ เช่น​ รถยนต์​ เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้า​ขนาด​ใหญ่​

อย่างไรก็ดี​ บางกลุ่มธุรกิจอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก​ เช่น

  1. ร้านค้า/ส่งสินค้าออนไลน์​
  2. ร้านค้าขนาดเล็กที่รับบัตรสวัสดิการ​ของ​รัฐ​หรือรับชำระผ่านระบบเงินโอนตามมาตรการรัฐ
  3. ภาคการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก​ เพราะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐ​กิจ​โลก​ เช่น​ กลุ่ม​ยานยนต์​และชิ้นส่วน​ อิเล็กทรอนิกส์​ อาหาร​แปรรูป​ เคมีภัณฑ์​ และยางพารา​ เป็นต้น​ ซึ่งรายได้พนักงานน่าจะทรงตัวตามชั่วโมง​การทำงานหรืออาจไม่ลดลงมากนักหากมีการรักษาระยะห่างมากขึ้น

โดยสรุป​ มาตรการป้องกัน​โค​วิด​รอบนี้น่าจะกระทบการบริโภคบางกลุ่ม​ โดยเฉพาะภาคค้าปลีก​ และภาคท่องเที่ยว​ ขณะที่คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น​ แม้กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอาจไม่ได้รับผลกระทบแรงเท่ากลุ่มอื่น​ แต่เนื่องจากคนทำงานที่บ้านมากขึ้น​ คนเดินทางหรือออกนอกบ้านน้อยลง​ มีผลให้ยอดขายลดลงตามจำนวนคน​ กลุ่มที่รับเงินโอนตามมาตรการภาครัฐอาจกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น​เพราะคนเลือกใช้บริการเพื่อลดค่าใช้จ่าย​ อย่างไรก็ดี​ ยังมีกลุ่มที่อาจไม่ได้รับผกระทบมากนักแต่ก็ยังกังวลต่อแนวโน้ม​เศรษฐกิจ​จึงลดการใช้จ่าย​ เช่น​ ข้าราชการ​ มนุษย์​เงินเดือน​ หรือกลุ่มแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเพื่อส่งออก

ในมุม​เศรษฐกิจ​ไทยไตรมาส​ที่​สอง​ หากการระบาดคลี่คลายลงในเดือนพฤษภา​คม​และสิ้นสุดลง​ในเดือนมิถุนา​ยน ผลกระทบทางการบริโภคในประเทศไม่น่ารุนแรงเท่าการล็อกดาวน์ปีก่อน​ แต่น่าจะรุนแรงกว่ารอบเดือนมกราคม​ ปัจจัยสนับสนุนมีเพียงมาตรการรัฐและการส่งออก​ เราประเมินว่าเศรษฐกิจ​ไทยจะหดตัวเทียบไตรมาสต่อไตรมาสหลังปรับฤดูกาล​เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน​ ที่นักเศรษฐศาสตร์​เรียกว่าเกิดการถดถอยทางเทคนิค​ หรือ​ technical recession แม้เศรษฐกิจ​ไทย​ไตรมาส​ที่​สอง​จะขยายตัวได้สูงเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนก็ตาม​ โดยเรากำลังปรับการ​คาดการณ์​เศรษฐกิจ​ไทย​ว่าอาจขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่​ 2.6% ซึ่งจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ​ 2 หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่ามาตรการป้องกัน​โค​วิด​นี้จะ​ 1. ควบคุมการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว​ 2. มีมาตรการชดเชยผู้ขาดรายได้ เช่นเพิ่มเงินโอน​ และต่ออายุมาตรการที่จะสิ้นสุดวันที่​ 31​ พฤษภาคม​ 3. มีมาตรการลดค่าครองชีพอื่นๆ​ เช่น​ ค่าน้ำ​ ค่าไฟ ค่าเดินทางระบบสาธารณะ​ 4. ทางธนาคารแห่งประเทศไ​ทยจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการลดภาระดอกเบี้ย​ เช่น ลดค่าธรรมเนียม​ FIDF​ หรือลดดอกเบี้ยกนง.ในรอบการประชุมวันที่​ 5 พฤษภาคม​ พร้อมเร่งอัดฉีดเงินกู้ให้ธุรกิจ​ อีกทั้งอาจเห็นการต่อมาตรการพักชำระหนี้​ ซึ่งทางธนาคาร​น่าดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกค้าให้รวดเร็ว​ขึ้น​

 

 

Facebook Comments

Related post