‘ชุติพงษ์   วิชัยดิษฐ’ชีวิตที่ลงตัว @เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม

            วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่นับวันอยู่ห่างจากธรรมชาติไปมาก ด้วยข้อจำกัดของการใช้ชีวิตไปกับการทำงาน เรียน และประกอบธุรกิจในเมือง  การเลือกซื้อบ้านเดี่ยว มีพื้นที่ใช้สอยสะดวกสบายเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคาดหวัง แต่จะมีสักกี่คนที่เอื้อมถึง  อีกทั้งส่วนใหญ่มีทำเลที่ค่อนข้างห่างออกไปจากกลางเมือง

หากมองถึง คอนโดมิเนียม จุดเด่นอยู่ที่ทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวกสบายแต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ในเรื่องของพื้นที่มีจำกัดอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับบางครอบครัว   ด้วยไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย และการตัดสินใจมองหาบ้านสักหลัง 

ทำให้ ทาวน์โฮม เข้ามาเป็นทางเลือกที่ใช่!!..สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านดีไซน์สวย พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว และเดินทางใกล้เมือง  เลยขอพาไปส่อง”โครงการเทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม “ (DHEPA Courtyard Urban Home) ของบริษัท เอเซียถือหุ้น จำกัด และ บริษัท ริมทราย จำกัด บนถนนรามคำแหง 118  ปรากฏการณ์ใหม่ของที่อยู่อาศัยในรูปแบบ ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น  บนพื้นที่กว่า  7 ไร่  มีเพียง 55 หน่วย   พื้นที่ใช้สอยระดับบ้านเดี่ยว สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของครอบครัวคนรุ่นใหม่

 “ชุติพงษ์   วิชัยดิษฐ “ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริมทราย จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม” เล่าว่า  บ้านแบบทาวน์โฮม ต้องมีความทันสมัย ในขณะเดียวกัน ต้องมีความสะดวกสบาย มีฟังก์ชั่น สัดส่วนของพื้นที่สีเขียวที่พอดี และมากพอต่อการใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว  สำหรับ โครงการ เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม  ออกแบบด้วยแนวคิด Urban Homes  เน้นพื้นที่สีเขียวและความเป็นธรรมชาติภายในโครงการ  

นอกจากออกแบบพื้นที่ใช้สอยระดับบ้านเดี่ยวแล้ว   ยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะยูนิตน้อยเพียง 55 หน่วย  ด้วยหัวใจในการออกแบบโครงการ ที่ต้องการให้ทุกคนที่พักอาศัยได้สัมผัสกับความร่มรื่น อบอุ่นของคำว่า “บ้าน” จึงเลือกออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยของบ้านสัมพันธ์กับพื้นที่สวน ที่มีสัดส่วนเพียงพอต่อการอยู่อาศัย DHEPA ทุกหลังจึงถูกออกแบบให้มีการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอย่างไร้รอยต่อ โดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน และความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ

 จุดเด่นของการออกแบบที่มาพร้อมกับสวนหลังบ้านที่กว้างกว่า 6 เมตร  ให้เป็นพื้นที่สีเขียว ดูดซับความร้อนและช่วยผ่อนคลายในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ  เป็นจุดขายหลักคือ Urban Courtyard ที่ให้บ้านทุกหลัง มีพื้นที่เชื่อมถึงกัน  ทั้งพื้นที่สวนภายนอกเชื่อมต่อกับพื้นที่ใช้สอยภายใน การจัดสัดส่วนของห้องนั่งเล่นอย่างลงตัว เหมาะกับการอยู่อาศัย  และยังสามารถสร้างความผูกพันภายในครอบครัว พื้นที่ นอกจากนี้ยังออกแบบเพดานสูง 5.2 เมตร  ช่วยให้ห้องดูโปร่ง รับแสงธรรมชาติ

ส่วนของตัวอาคาร มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยทุกอย่างอย่างลงตัว  และเลี่ยงความร้อนจากแดดยามบ่าย ด้วยการออกแบบให้บ้านทุกหลัง  รวมทั้งหัวเตียงในห้องนอน ไม่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก และวางผังให้สอดรับกับทิศทางลม เพื่อระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งความใส่ใจของงานออกแบบที่สามารถทำให้กลมกลืนกับธรรมชาติและการดีไซน์

ชุติพงษ์ เล่าต่อไปอีกว่า   “เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม” บ้านในรูปแบบของทาวน์โฮม ที่ผสานไอเดียของการออกแบบเชิงสถาปัตย์ให้กลมกลืนไปกับความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว  ที่โอบล้อมตัวบ้าน  กลายเป็นความโดดเด่น ของบ้านทุกหลังใน DHEPA กับสวนส่วนตัว Urban Courtyard ที่กลายเป็น Unique Design ได้อย่างโดดเด่นจากไอเดียการตกแต่งออกแบบสวน 3 แบบ 3 สไตล์จาก คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ แห่งนิตยสารบ้านและสวน กับผลงานการออกแบบสวนภายใต้แนวคิดที่นิยมไปทั่วโลก “เพอร์มาคัลเจอร์” (Permaculture) ที่นำเสนอแนวคิดสวนสวย  แต่ยังสามารถใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนได้   โดยคุณสกุล อินทกุล ศิลปินระดับแถวหน้า เจ้าของพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และคุณสุริยะ อัมพัน  ศิริรัตน์ สถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์จาก WALLLASIA   

โดยบ้านทั้ง 55 หลังในโครงการจะมีความเป็น Private Living และ Urban Courtyard   เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละครอบครัว   นอกจากความสวยงามของสวนสวย การออกแบบบ้านที่เปิดโล่งให้อากาศไหลเวียนในบ้านได้ดี  การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เน้นความเรียบง่าย แต่มีคุณค่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เป็นชีวิตในแนวทาง Eco-Friendly ที่คนเมืองในปัจจุบันต้องการ

**บ้านที่อยู่แล้วสบาย

          ความสบายเกิดได้จากความ “สมดุล” การพัฒนา “เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม”  จึงมีการจัดการพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว พื้นที่เปิดโล่ง  อากาศถ่ายเท รับแสงจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านเป็นความลงตัวที่ทำให้  Urban home 3.5 ชั้น  บนเนื้อที่ 28-48 ตร.ว. ในราคาเริ่มต้นที่ 9.5 ล้านบาท   แตกต่างอย่างน่าสนใจ  ด้วยพื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม. หน้ากว้าง  6 เมตร จอดรถ 2 คัน ห้องนั่งเล่น ห้องอาหารแบบ ขยายมุมมองและพื้นที่โล่งด้วยเพดานสูงถึง 5.20 ม.  เปิดออกไปเป็นพื้นที่เป็นห้องรับประทานอาหารของครอบครัว และห้องรับแขก  Multi Purpose Room ห้องเอนกประสงค์ที่มีชั้นลอย มองเห็นสวนหลังบ้านได้อย่างเต็มตา

ส่วน Living and Dining Room ที่เชื่อมต่อพื้นที่ภายนอกและ สวนหลังบ้าน  Master bedroom suite พื้นที่ขนาด 36 ตร.ม.  เป็นได้ทั้งห้องนอน walk in closet และห้องน้ำ ที่เปิดเชื่อมต่อไปยัง Planter Terrace ให้ผู้อยู่อาศัยตื่นมารับแสงจากธรรมชาติในทุกเช้าของวัน   Bedroom2 พื้นที่ใช้สอย 20 ตร.ม. พร้อมห้องน้ำในตัว พร้อมมุมนั่งเล่น เปิดรับลมธรรมชาติให้เข้าสู่พื้นที่ได้    Bedroom 3 พื้นที่ 14 ตร.ม. มีห้องน้ำในตัว และหน้าต่างสูงเปิดรับลมธรรมชาติ    Family room พื้นที่บริเวณหน้าห้องนอน 2 และ3 สามารถจัดสรรให้เป็นพื้นที่สำหรับใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว อาทิ เป็นห้องนั่งเล่น เล่นเกม และทำการบ้าน  พื้นที่สวนหลังบ้าน  เพื่อความเป็นส่วนตัว และการพักผ่อนของครอบครัว ที่มาพร้อม 3 ห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว

นอกจากนี้ยังมีบ้าน DHEPA  PLUS  ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากถึง 295 ตร.ม. มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว  ส่วนของตัวอาคาร มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยทุกอย่างอย่างลงตัว และเลี่ยงความร้อนจากแดดยามบ่าย ด้วยการออกแบบให้บ้านทุกหลัง  วางผังให้สอดรับกับทิศทางลม   เพื่อระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ   เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจของงานออกแบบที่สามารถทำให้บ้านที่นี่  มีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น  โดยการก่อกำแพงที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านแต่ละหลังเป็น Double Wall  ช่วยลดเสียงรบกวนจากข้างบ้าน และลดความร้อนภายในตัวบ้าน อีกทั้งมีการเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ มีเอกลักษณ์ ดีไซน์สวยงาม และดูแลรักษาง่ายแวดล้อมด้วยธรรมชาติและงานดีไซน์  ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่บ้านในแบบทาวน์โฮม จะใส่ไอเดียและดีไซน์ได้มากแค่ไหนเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวที่ได้เปรียบกว่าในด้านของขนาดพื้นที่   “เทพา     คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม”  ทำให้เห็นแล้วว่าหากใส่ดีไซน์เข้าไปบ้านทุกหลังก็เป็น Urban Courtyard, Unique Design ได้อย่างโดดเด่น 

  มาดูด้านทำเลที่ตั้งโครงการบ้าง  ย่าน “รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา”  นับได้ว่าเป็นทำเลแห่งอนาคต

โครงการ “เทพา คอร์ทยาร์ด เออร์เบิร์น โฮม” ตั้งอยู่รามคำแหง 118  ทำเลโซนตะวันออกที่น่าจับตามองถึงศักยภาพการขยายตัวของกทม.  โดยมี 2 ทำเลสำคัญเชื่อมต่อคือ “รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา”

“รามคำแหง”  ทำเลที่เชื่อมต่อด้วยถนนหลายสายเข้าสู่เมืองย่านพระราม 9  ด้วยเส้นทางสายหลัก และสายรองอีกด้านเชื่อมไปยังถนนหลายเส้น ทั้ง เสรีไทย  บางกะปิ  ลาดพร้าว  ถนนรัชดา-นวมินทร์ และถนนประเสริฐมนูกิจ รวมทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี 

ตลอดเส้นทางรถไฟสายนี้ วิ่งผ่านมากถึง 10 สถานีอาทิ  สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, สถานีวัดพระราม, สถานีรามคำแหง 12, สถานีรามคำแหง, สถานีการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นต้น  ทำให้การเลือกที่อยู่อาศัยในย่านนี้หมดห่วงเรื่องการเดินทาง   ย่านรามคำแหง ยังสะดวกสบายด้วย แหล่งช้อปปิ้ง อย่าง  เดอะ มอลล์ บางกะปิ   โกลเด้น เพลซ และ พาซิโอ รามคำแหง , ใกล้สถานพยาบาล รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ รพ.รามคำแหง , ใกล้แหล่งสถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติ Ascot โรงเรียนนานาชาติ Heathfield‎ โรงเรียนนานาชาติ Wellington

ส่วน “กรุงเทพกรีฑา” ทำเลที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้หลายเส้นทางทั้ง ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า อีกทั้งมีจุดเชื่อมต่อกับถนนหัวหมากและถนนรามคำแหง  ที่วิ่งเข้ากลางเมืองอย่างโซนพระราม 9 ได้ด้วย และในอนาคตโซนนี้สะดวกสบายมากขึ้น  ด้วยการเดินทางรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม  ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-บึงกุ่ม

การมองหาบ้านสักหลังคงต้องพิจารณาให้ละเอียดตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง   ราคา การเดินทาง  สิ่งอำนวยความสะดวก แต่ที่สำคัญคือสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในครอบครัวได้หรือไม่!!