
‘ชลน่าน’ แถลงยืนยันกรณี ‘พล.อ.พัลลภ’ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่มีคนนอกพรรคมาสั่งปลด ระบุยังเป็นสมาชิกเพื่อไทย


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค แถลงชี้แจงกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษานายกฯ และอดีตนายทหารยังเติร์ก กล่าวถึงตนและพรรค พท.ว่า เนื่องจากมีผู้ร้องไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มาสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองที่เป็นเหตุให้ยุบพรรค พท.ได้หรือไม่ จากกรณีคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.พัลลภ จากนั้นมีข่าวเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของท่าน และมีการขยายผลออกไปจนมีการร้องดังกล่าว ทำให้ตนต้องมาแถลงข้อเท็จจริง
โดยในเนื้อข่าวมีการพูดถึงการปลดท่านออกจากสมาชิกพรรค พท. และอ้างเหตุจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค พท.เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ไปจัดที่ จ.ขอนแก่น โดยอ้างว่าถูกปลดออกจากสมาชิกและไม่ได้เข้าร่วมประชุม ไปตรวจสอบรายชื่อแล้วถูกลบชื่อออก
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเป็นการประชุมใหญ่ที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดของการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งปกติเราจะประชุมไม่เกินเดือนเมษายนของทุกปี แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป และไม่สามารถจัดงานในพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้มได้เพราะมีข้อจำกัดเรื่ององค์ประชุม จ.ขอนแก่นในช่วงเดือนตุลาคมจึงเป็นสถานที่ที่สามารถจัดการประชุมและมีองค์ประชุมได้ตั้งแต่ 500 คน แต่ไม่เกิน 1,000 คน ได้ จึงเป็นเหตุที่ต้องไปจัดที่ จ.ขอนแก่น
ส่วนวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนั้นมีอยู่ 2 เรื่องหลัก คือ การประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ต้องทำเป็นวาระประจำและเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในพรรค ฉะนั้น จำนวนสมาชิกที่เชิญเข้าไปประชุมต้องเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค ซึ่งระบุชัดเจนว่าต้องเป็นคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนสมาชิกพรรค อย่างละเท่าไร ซึ่งได้มีการเชิญคนเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 509 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส. และต้องเชิญสมาชิกที่ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉะนั้น การเชิญครั้งนี้จะมีผู้อาวุโสของพรรคหลายคนที่ไม่ได้เชิญไป โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 80 ปีขึ้นไป เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
“เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุให้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งได้อ้างกับสื่อว่าให้ตัวแทนไปตรวจสอบดูและตัวแทนของท่านกลับมารายงานท่านว่าได้ถูกลบชื่อออก ซึ่งการลบชื่อออกจากที่ประชุมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเราเชิญเฉพาะคนที่สามารถเข้าร่วมประชุมได้จริงๆ และสิ่งที่ท่านกล่าวอ้างกับสื่อว่าท่านถูกปลดออกจากสมาชิกพรรค เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะ พล.อ.พัลลภ ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแบบตลอดชีพอยู่ หมายเลขสมาชิก P103820422 และจ่ายค่าสมาชิกตลอดชีพเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ฉะนั้น สิ่งที่ท่านบอกว่าถูกปลดก็เป็นสิ่งที่ท่านเข้าใจจากคนที่ไปแจ้งท่านว่าถูกเอาชื่อออกจากที่ประชุม” นพ.ชลน่านกล่าว
กรณีที่มีการระบุว่ามีการพูดคุยทางโทรศัพท์ กล่าวอ้างถึงบุคคลภายนอกสั่งปลดและมีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ตนระมัดระวังเรื่องนี้มากเพราะพรรคเราถูกจ้อง ดังนั้น การจะพูดคุยทางโทรศัพท์ว่าคนแดนไกลหรือคนนอกสั่งปลด เมื่อดูจากข้อเท็จจริงก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีการปลดกัน ส่วนที่ พล.อ.พัลลภเคยกล่าวอ้างว่าเคยช่วยเหลือตนนั้นเป็นเรื่องจริง โดยในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เป็นช่วงที่วิกฤตมาก ตนได้รับความเมตตาจากท่านซึ่งเป็นเรื่องจริง
ส่วนที่มีบุคคลไปร้องกับ กกต.ว่าการกระทำตามที่ พล.อ.พัลลภกล่าวอ้างในสื่อและพาดพิงถึงชื่อตน เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอฝากไปยังผู้ร้อง แม้เจตนาร้องเพื่อให้สอบข้อเท็จจริง แต่ท่านมีเจตนายุบพรรค พท. ซึ่งกฎหมายพรรคการเมืองก็คุ้มครองพรรคอยู่ หากท่านร้องเท็จ เราจะพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอะไรตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ การมาบอกว่าบุคคลภายนอกมาชี้นำพรรค ซึ่งไม่เป็นความจริง เจตนาของท่านร้องเท็จ ยืนยันว่ากรรมการบริหารพรรคไม่เคยยินยอมให้บุคคลภายนอกมาสั่งมาชี้นำ ครอบงำให้ปลดคนนั้นคนนี้ ซึ่งกระทำไม่ได้อยู่แล้ว และการกระทำนี้สามารถพิสูจน์จากการกระทำได้จริง เพราะกรรมการบริหารพรรคทำงานแบบเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำ ชี้งำใดๆ โดยสรุปเมื่อไม่มีการปลด จะไปร้องว่ามีการกระทำเกิดขึ้นมิได้
“ผมยังรักและเคารพ พล.อ.พัลลภ พร้อมไปกราบท่านเพื่อทำความเข้าใจและเรียนชี้แจงท่าน ซึ่งเมื่อวานผมได้โทรศัพท์ต่อสายถึงท่านเป็นครั้งแรก และได้พูดคุยในหลายประเด็นและเรียนชี้แจงท่านในเรื่องที่เกิดขึ้น ได้พูดถึงความสำคัญของท่านต่อพรรค และพร้อมที่จะไปกราบขอให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมเข้ามามีโอกาสทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับพรรค แต่ช่วงนี้ท่านบอกว่าท่านมีข้อจำกัดเรื่องของคนที่จะไปเยี่ยมเพราะมีเรื่องของโควิดที่ท่านจะต้องกักตัว และจากการพูดคุยกัน ผมได้ชี้แจงท่านเรื่องที่ไม่ได้ถูกปลดจากสมาชิกแล้ว ซึ่งท่านเข้าใจ โดยมูลเหตุอาจมาจากพอมีคนรายงานว่าท่านถูกลบชื่อ ทำให้ท่านเข้าใจผิดได้” นพ.ชลน่านกล่าว