Digiqole ad

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมว.กระทรวงการคลัง อภิปรายชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย นโยบายซอฟต์พาวเวอร์

 “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมว.กระทรวงการคลัง อภิปรายชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย นโยบายซอฟต์พาวเวอร์
Social sharing

Digiqole ad
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่านโยบายซอฟต์พาวเวอร์จะช่วยสร้างรายได้ใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาศักยภาพ Reskill และ Upskill ประชาชน พร้อมผลักดันไทยแข่งขันใน ‘เศรษฐกิจเทศกาล’ (festival economy) ชูอัตลักษณ์ของประเทศเพื่อขายในระดับโลก
.
1. รัฐบาลตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เดินหน้ามาแล้วสองเดือนเศษ และประสบความสำเร็จจากการได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในด้านต่าง ๆ ในสถานการณ์ที่ภาระหนี้ครัวเรือนสูงถึงกว่า 90% ซึ่งกดทับพี่น้องจนไม่มีช่องทางหารายได้ เราจะต้องแก้ไขเพื่อให้พี่น้องพ้นภาระหนี้สิน เพราะฉะนั้นไม่สำคัญว่าจะเป็นหมูกระทะ วัวชน วันสงกรานต์ หรืออื่นใด เราสามารถประยุกต์ให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนได้ เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือการสร้างรายได้ใหม่ ต่อยอดอนาคตของประชาชน
.
2. สำหรับคำถามเกี่ยวกับจุดยืนของไทยในโลกและดัชนีซอฟต์พาวเวอร์โลก (Global Soft Power Index) หากรัฐบาลดำเนินนโยบายได้สำเร็จ ไทยจะไต่ลำดับในดัชนีระดับโลกซึ่งเป็นผลพลอยได้ แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เราจะได้อันดับใดก็ตาม การสร้างรายได้ใหม่และทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้เป็นเป้าหมายสำคัญ
.
3. งบประมาณของนโยบายนี้มีการบรรจุประมาณเกือบหมื่นล้านบาท โดยกระจายอยู่ในจุดต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม จากกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นเพียงการจัดอีเวนต์หรือไม่ ผมขอให้ไม่ด้อยค่าการจัดอีเวนต์ มีกิจกรรมเกิดขึ้นในหลายจุดจริง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะส่วนหนึ่งจะเป็นการอบรมพัฒนาศักยภาพหรือการ Reskill และ Upskil แก่ประชาชน และในปัจจุบัน ทั่วโลกพยายามแข่งขันกันใน ‘เศรษฐกิจเทศกาล’ (festival economy) โดยหาจุดแข็งหรืออัตลักษณ์ของตนเพื่อขายในระดับโลก ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ในกรณีไทย เราหยิบยกสงกรานต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและจะสร้างเม็ดเงินมหาศาล
.
4. ที่สำคัญที่สุด ผมเห็นว่าเป็นครั้งแรก ๆ ที่โครงการต่าง ๆ ได้รับข้อเสนอแนะโดยตรงจากภาคเอกชน ว่าอยากเห็นงบประมาณรัฐจัดกิจกรรมหรือสนับสนุนอย่างไร เพื่อให้ตรงกับความต้องการของภาคเอกชนและพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่
.
5. การเดินหน้านโยบายหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ เป็นทั้งความฝัน ความเชื่อ และเป็นหมายของรัฐบาล เราวางเป้าหมายไว้ 20 ล้านครัวเรือน รายได้ 200,000 บาทใน 4 ปีข้างหน้า หลายท่านอาจเป็นห่วงว่าทำไมเป้าหมายจึงสูง แต่เราเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของคนไทย เชื่อว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินใหม่ เพิ่มรายได้ให้พี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ด้วยงบประมาณที่มีในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และกลไกที่พี่น้องประชาชนเข้าร่วมนโยบายนี้
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post