
“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การกระทรวงการคลัง ชี้แจงแนวนโยบายสวัสดิการโดยรัฐ ในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา


“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงแนวนโยบายสวัสดิการโดยรัฐ ในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา วันที่ 12 กันยายน 2566 ว่า ในแนวนโยบายของรัฐ ใช้คำว่า ‘สวัสดิการโดยรัฐ’ เพราะเราคำนึงถึงภาระของงบประมาณ ผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค วัคซีนฟรีและสวัสดิการรูปแบบต่างๆ ที่จะลงไปยังพี่น้องประชาชนหลายๆ ภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ
.
นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาส สนับสนุนคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน เช่น 1 ครอบครัว 1 Soft power (OFOS) การปรับแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค ขจัดรัฐอุปสรรค สร้างรัฐที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจให้กับพี่น้องประชาชน
.
เราต้องตื่นจากความฝัน เราต้องอยู่กับความเป็นจริง สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ เรารู้ว่าในโครงสร้างของงบประมาณ อัตรารายได้ต่อจีดีพี จีดีพีต่อประชากรของไทยต่ำกว่าประเทศที่ทำสวัสดิการถ้วนมาก หากเรายกตัวอย่างประเทศ เช่น สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เหล่านั้น โครงสร้างทางเศรษฐกิจเขามีความแตกต่างจากเราอย่างมหาศาล ฐานภาษีที่ประเทศเหล่านั้นเก็บได้กับการช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้านั้น ขณะนี้ประเทศไทยด้วยสภาวะและรายได้จากการจัดเก็บภาษี ยังไม่อยู่ในจุดที่เราจะสามารถทำสวัสดิการถ้วนหน้าได้จริงๆ
.
แม้แต่เพื่อนสมาชิกรัฐสภาที่ได้อภิปรายเรื่องนี้ ในช่วงที่ผ่านมาที่เราเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล เรารับทราบกันดีว่าข้อจำกัดนี้คืออะไร ท่านเองก็รับทราบว่าขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีงบประมาณมากเพียงพอที่จะรองรับการจัดทำสวัสดิการถ้วนหน้า
.
สมาชิกรัฐสภาที่อภิปรายเรื่องนี้ก็ทราบดีว่าสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับประเทศไทยในตอนนี้คือ การสร้างเค้กให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้รัฐจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น จึงจะสามารถนำภาษีเหล่านั้นนำไปทำสวัสดิการ
.
รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรามีความตั้งใจที่จะเดินหน้าทำสวัสดิการให้กับประชาชน ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ทำ
.
เราจะเดินหน้าทำสวัสดิการโดยรัฐ ให้กับประชาชนในระดับที่เหมาะสมและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกรอบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เรากำลังจะเดินหน้าไป
.
ในเรื่องนี้จะต้องถามกลับต่อเพื่อนสมาชิกรัฐสภาที่ต้องการให้ทำสวัสดิการถ้วนหน้านั้นท่านคาดว่ารัฐบาลจะเอาแหล่งงบประมาณจากที่ไหน ต้องผูกพันงบประมาณในระยะยาวเท่าไหร่ กับโครงสร้างประเทศไทยที่กำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัย
.
สุดท้ายภาระที่ประเทศจะต้องแบกรับในอนาคตอันใกล้จะต้องเป็นเท่าไหร่ ตัวเลขเหล่านี้ทุกท่านมีอยู่ในใจ และเรารู้ว่ามันเป็นภาระที่หนักหน่วงและจะกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ภาครัฐจะต้องลงไปทำในอนาคต
.
หรือท่าน (สมาชิกรัฐสภา) จะเอาเงินมาจากการขายสินทรัพย์ของรัฐบาล เอามาทำสวัสดิการถ้วนหน้า หรือ จะขายกองทุนวายุภักษ์อย่างที่สมาชิกรัฐสภาบางท่านบอกว่า จะยืมกองทุนหมุนเวียน หรือจะกู้แบงก์รัฐ …ผมไม่ทราบ? แต่รัฐบาลนี้เราตระหนักในเรื่องของวินัยการเงินการคลัง เราทำเช่นนั้นไม่ได้ แต่เราจะสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จนกระทั่งในที่สุด เราสามารถเดินไปสู่จุดที่เราจะสามารถทำสวัสดิการให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจนได้
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย

Facebook Comments