‘จตุพร’ ขยายอาณาจักร ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ผู้บริโภค 

จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในธุรกิจได้รับผลโดยตรง คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งล่าสุด ทางด้าน พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) ได้คาดการณ์ว่า จะเกิดเมกะเทรนด์ ที่มาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในเร็วๆ นี้ พร้อมเตรียมแผนขยายธุรกิจ ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง 

จตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI  ผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก่อให้เกิดเมกะเทรนด์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบริการอสังหาริมทรัพย์ใน 5 ด้านหลัก “ประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ (Shifting Economic Power) การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกขยับมาเป็นทางเอเชียมากขึ้น ไทยเป็นประเทศเป้าหมายทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวของเหล่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดซื้อ–ขาย–เช่าอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตต่อเนื่อง” 

ขณะที่ด้านต่อมา คือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) “ถือเป็นปัญหาใหญ่ของโลก ที่นำมาสู่การใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นในทั่วทุกทวีป ส่งผลให้มีความต้องการ EV Charger ตลอดจนโซลาร์เซลล์ในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น นิติบุคคลโครงการอาจต้องมีส่วนช่วยในการเปลี่ยนผ่านในกลุ่มโครงการดั้งเดิม” เช่นเดียวกับ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (Technological Breakthrough) ซึ่งทาง ซีอีโอ ยอมรับว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว รวมถึงยังมีบทบาทต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตมากขึ้นด้วย” 

“ขณะที่การเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Social Change) ซึ่งวันนี้ ทั่วโลกได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ความต้องการการบริการสำหรับผู้สูงวัยจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสุดท้าย คือ การเป็นเมืองอย่างรวดเร็ว (Rapid Urbanization) วันนี้พบว่า ประชากรมีการย้ายถิ่นฐานไปยังหัวเมืองต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ขยายไปตามพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้นด้วย” 

ซีอีโอ ของพีอาร์ไอ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 บริษัทได้วางแผนการเติบโตภายใต้แนวคิด “Super Living Service” ขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในหลากหลายมิติ “ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มบริการในเซ็กเมนต์ใหม่ เช่น การขยายบริการบางกลุ่มธุรกิจจากเซ็กเมนต์ทั่วไป สู่เซ็กเมนต์ระดับลักชัวรี หรือ การเปิดตัวธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นธุรกิจ ที่จะช่วยเติมเต็มความครบวงจรของงานบริการ และธุรกิจที่สอดคล้องกับทิศทางเมกะเทรนด์โลก รวมถึง ยังมีแผนการบุกตลาดต่างจังหวัด พร้อมการส่งบริษัทย่อยบุกให้บริการในพื้นที่ทั้ง 4 ภูมิภาคหลักของประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น และเขาใหญ่ ภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ที่ หัวหิน และ จ.ภูเก็ต และภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง” 

กระนั้นก็ตาม ซีอีโอ ย้ำด้วยว่า “Pain Point หลักของผู้บริโภคต่องานบริการในที่อยู่อาศัย คือเรื่องความกระจัดกระจาย ผู้บริโภค “ในส่วนนี้ ต้องใช้เวลามหาศาลในการไปเสาะหาผู้ให้บริการหลายๆ เจ้า บางบริการต้องออกไปต่อคิวรอรับบริการข้างนอก ซึ่งวิสัยทัศน์ของพรีโม จึงเป็นการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการ Expanding, Growing แล้ว Connecting รวบรวมบริการทุกอย่างให้เป็น Super Living Service มีทุกบริการครบจบในที่เดียว พร้อมดูแลทั้งลูกค้าโครงการ ลูกค้ารายย่อย ทุกเจเนอเรชั่น ทุกจังหวะชีวิต ก่อนที่จะก้าวสู่การเป็น Happy Maker หรือ ผู้สร้างความสุขที่สร้างความสะดวกสบายในที่พักอาศัย ทำให้ประหยัดเวลา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ของผู้บริโภค” ซีอีโอ กล่าว

คุณจตุพร กล่าวอีกว่า การขยายอาณาจักร Super Living Service ของบริษัท จะมีทั้งการสร้างการเติบโตด้วยตัวเอง (Organic Growth) และการเติบโตทางลัด (Inorganic Growth) ผ่านการจับมือร่วมทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) กับผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ตลอดจนการพิจารณาซื้อกิจการ (M&A) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้นอยู่แล้ว เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยยกทัพบริษัทในเครือ มองหาพันธมิตรที่จะเข้ามาเติมเต็มความครบวงจรภายในปีนี้

“ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทจะเริ่มนำร่องบุกต่างจังหวัดนอกพื้นที่ EEC เป็นครั้งแรก ที่จังหวัดภูเก็ต โดยทยอยส่งบริษัทย่อยในปัจจุบันทั้ง 8 บริษัท เข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ผู้ให้บริการบริหารนิติบุคคล ดูแลคุณภาพชีวิตลูกค้าทั้งระดับทั่วไปและระดับลักชัวรี เช่น โครงการวิลลาในพื้นที่ เช่นเดียวกับ บริษัท แพสชั่น เรียลเตอร์ จำกัด ที่จะมาทำหน้าที่ในการให้บริการนายหน้าซื้อ–ขาย–ปล่อยเช่า รวมถึง การพัฒนาโครงการ ส่วนบริษัท อูโน่ เซอร์วิส จำกัด จะเข้าไปดูแลบริการงานด้านความสะอาด และ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด จะเข้าไปให้บริการบริหารงานก่อสร้างโครงการ” 

นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ยูพีเอ็ม ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด ที่ให้บริการออกแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารแก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนบริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด ให้บริการตกแต่งภายในครบวงจร และบริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเมนท์ จำกัด ที่จะมาดำเนินงานบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ช่วยบริหารจัดการผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก สร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายของเจ้าของโรงแรมหรือที่พักอาศัย

“ทุกธุรกิจของเรา ทั้งธุรกิจดั้งเดิมและธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคตั้งแต่ตอนที่เขายังโสด ไปจนถึง ตอนแต่งงาน ตอนมีครอบครัว และ ตอนทายาทเริ่มเติบโต เราจะเป็น Happy Maker ที่ให้บริการตอบโจทย์ผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต หรือ Lifetime” คุณจตุพร กล่าว

ซีอีโอ พีอาร์ไอ ตอกย้ำด้วยว่า หลังจากนี้ บริษัทยังมีแผนพิจารณาการขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง “เราพยายามมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภครายย่อยเป็นหลัก อาทิ ธุรกิจร้านสะดวกซัก (Wash & Dry) รวมถึงรักษาระดับการเติบโตในกลุ่มธุรกิจทั้ง 8 ที่ให้บริการอยู่แล้วในปัจจุบัน โดย ณ สิ้นปี 2566 เราได้ตั้งเป้าจะมีโครงการที่เข้าไปบริหารนิติบุคคลและโครงการที่เข้าไปบริหารงานขายรวมกันมากกว่า 150 โครงการ ขณะเดียวกัน ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2566 ไว้ที่ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ถึงราว 173.06% หรือเกือบ 3 เท่าตัว” 

อย่างไรก็ดี สำหรับ บริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร ตามมาด้วย กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการอพาร์ตเมนท์แบบพรีเมียม บริการซื้อ–ขาย–ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และกลุ่มปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง บริการออกแบบและตกแต่งภายใน