
“ตลาด”ยังมีตาชั่งกลาง..เป็นที่หวัง พ่อค้าแม่ค้าเอาเปรียบไม่ได้??

“เพื่อความเป็นธรรม เจ้าของตลาดไม่ยอมให้แม่ค้ากระทำ การโกงตาชั่ง”
เขาจึงมีจุด “ตาชั่งกลาง” ที่ตรงเป๊ะ ขาดสักขีด หรือสองขีด ก็ทำไม่ได้..เพราะนั่นคือการไม่ซื่อตรง ผิดจรรยาบรรณของพ่อค้า-แม่ค้า อย่างจัง
เมื่อ “ตาชั่ง” เป็นมาตรวัด..ทุกตาชั่งของพ่อค้าและแม่ค้า จะต้องมี “ความเที่ยงตรง” เหมือนกับตาชั่งกลาง ที่เจ้าของตลาดเตรียมเอาไว้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ต่อคนทุกคน
ทุกอย่างที่เป็นเสมือนกับ “ตาชั่ง” ต้องยึดกฎเกณฑ์ ตามมาตรฐานเดียวกัน..จะมาเป็น “๒ มาตรฐาน” ตลาดนั้นย่อมไร้คนเชื่อถือ-อย่างน่าดู
“ตาชั่ง”ต้องตรงมีมาตรฐาน..ประชาชนจึงเชื่อในบริหาร และพร้อม-เชิดชู
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ความคิดหล่อ ๆ อย่าให้เป็นกิ้งกือตกท่อ ก็แล้วกัน”
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯ และ อดีต หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเดินหน้าสู่ การโหวตวาระ ๓ “เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การทำรัฐธรรมนูญใหม่” อำนาจของรัฐสภา ต้องมาโหวตกัน-เท่านั้น
ที่สำคัญ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ผู้นำรัฐบาล และพรรคร่วมต้องมีความจริงจัง ซื่อสัตย์ต่อคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่าได้มาเป็น “ลูกคนช่างเบี้ยว” เหมือนทุกวัน
ประเทศไทยที่ “ตกหลุมดำ” ย้ำหัวแม่เท้าอยู่กับที่ ดีไม่ดี อาจจะถอยหลังเอาอีกด้วย ..ฉะนั้น,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ-ฉบับมีชัย ทำตามใบสั่ง จะต้องดำเนินการ เพราะชีวิตที่ฝากกับ “นายกฯประยุทธ์”มาสุดทาง
ต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่..เตะอดีตทหารแก่ออกไป ถ้าสู้ต้องผ่าน-การเลือกตั้ง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“รัฐธรรมนูญที่ฉีก ก็ไม่ให้อำนาจใดมาพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ทำกันได้”
แต่เขาก็ฉีกกันลงไป ..โดยใน “รัฐธรรมนูญฉบับนั้น” มีโทษความผิด อย่างยิ่งใหญ่
เขาฉีกและเขียนรัฐธรรมนูญ ปี ๖๐ ขึ้นมาเสร็จสรรพ..ก็ไม่ได้ถามประชาชนก่อน..ถ้าไม่เอา “ฉบับที่มีชัยร่าง” ก็จะหยิบฉบับอื่น ขึ้นมาใช้กันทันที
ด้วยความกลัว “รัฐธรรมนูญ คสช.” จึงมีคนหลงเข้าอวน หนุนฉบับมีชัย ๑๖ ล้านเสียง..จนเป็นข้ออ้างมาจนถึงทุกวันนี้
เป็น ๑ ใน ๑๖ ล้านเสียง..ที่ตกหลุมขาเดี้ยง ขอเสียงคืน กลับมา-ซะดีดี
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“แบ่งเค้ก ส่งสเปกรัฐมนตรีตู่๒/๓ กันเป็นที่เรียบร้อย”
แต่ไม่ได้สร้าง “แรงกระตุ้น” ความเชื่อมั่น ให้เกิดแก่ “ประชาชน” แม้แต่น้อย
เพราะรัฐมนตรีเก่า ล้วนเป็น “ขุนพลอยพยัก” งึกงัก พยักหน้า ทำตามกันลูกเดียว.. “พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์” ส่งคนใหม่เข้าไปยึดกระทรวง ..งานเก่าที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน มีแต่ผลงานที่กลวง
อำนาจการแก้ไขปัญหา “โควิด-๑๙” อยู่ในกรอบ ของ“ระบอบประยุทธ์”.. ที่ดูเหมือน “พรรคประชาธิปัตย์” ไม่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวกับ เพื่อแก้ปัญหานี้ ให้ลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดี
ได้โควตากันอย่างสุขสม..แต่ปัญหาของชาติคงหมักหมม-ท่ามกลางเสียงยี้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“สร้างสถานการณ์ ทหารพม่าเข้าไปเผาธุรกิจจีน”
“เผด็จการมิน อ่อง หล่าย” เริ่มถอยแรง หวังกำลังจาก “จีน” เข้ามาถล่ม “ประชาชนพม่า” ให้แดดิ้น
ขนาดฆ่าตายเป็นรายวัน ๓๐-๔๐ ศพ ..โดยเอากระสุนมายิงหัวซ้ำ ให้กะโหลก และ ปากหายไปทั้งยวง ..แต่ก็หยุดความยุติธรรมในการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย ของ “ชาวพม่า” ที่ต้องการขจัด “เผด็จการ” ให้เสร็จสิ้น
ยอดประชาชนตายที่เป็นน่าเศร้าใจ เกินกว่า ๑๔๐ ศพเข้าไปแล้ว และผู้บาดเจ็บ มีจำนวนนับหลายพันคน ..แต่ความเป็น “คนจริงไม่ทิ้งแผ่นดิน” ให้ตกอยู่กับ “เผด็จการ” ชาวพม่าจึงสู้เพื่อให้ชนะ
มีการตั้งรัฐบาลฟากประชาชน..ให้ใช้ปืนได้ทุกคน สู้กับเผด็จการอย่าง-ไม่ลดละ
“กะพรุนไฟ”
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔