
คนไทยกับวัคซีนโควิด-19

จากกรณีที่ไทยจะดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ โดยวัคซีนล็อตแรกคือแอสตราเซเนกาจากสหราชอาณาจักร วัคซีนจากซิโนแวคจากจีน และจะมีการผลิตวัคซีนภายในประเทศโดยบริษัทสยามไบโอ ไซเอนซ์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับวัคซีนของไทย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,570 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 22-29
1. ประชาชนรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อบริษัทผลิตวัคซีนโควิด-19 ใดบ้าง
อันดับ 1 | ไฟเซอร์–ไบโอเอ็นเท็ค (Pfyzer- BioNTech) | 64.27% |
อันดับ 2 | อ๊อกฟอร์ด–แอสตราเซเนกา (Oxford-Astrazeneca) | 52.55% |
อันดับ 3 | ซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovec- Biotech) | 51.66% |
อันดับ 4 | จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson&Johnson) | 35.10% |
อันดับ 5 | โมเดอร์นา (Moderna) | 28.28% |
2. ประชาชนมีความกังวลเรื่องใดบ้างในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย
อันดับ 1 | ผลข้างเคียงของวัคซีน | 82.71% |
อันดับ 2 | ประสิทธิภาพของวัคซีน | 71.96% |
อันดับ 3 | ความเพียงพอของวัคซีนสำหรับประชาชนทุกคน | 54.67% |
อันดับ 4 | ราคาต่อเข็มของวัคซีนกรณีที่ประชาชนต้องจ่าย | 44.17% |
อันดับ 5 | ยี่ห้อของวัคซีนที่ไทยสั่งซื้อ | 38.60% |
3. ประชาชนต้องการจะฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่
อันดับ 1 | ต้องการฉีด แต่ขอรอดูผลข้างเคียงก่อน | 65.99% |
อันดับ 2 | ต้องการฉีด และพร้อมฉีดได้เลย | 20.70% |
อันดับ 3 | ไม่ต้องการฉีด | 13.31% |
4. ประชาชนเชื่อมั่นว่าวัคซีนจะป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่
อันดับ 1 | ค่อนข้างเชื่อมั่น | 63.88% |
อันดับ 2 | ไม่เชื่อมั่น | 19.30% |
อันดับ 3 | เชื่อมั่น | 16.82% |
5. เมื่อมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยแล้ว การดูแลสุขภาพของประชาชนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
อันดับ 1 | ดูแลเหมือนเดิม | 60.83% |
อันดับ 2 | ดูแลมากขึ้น | 35.54% |
อันดับ 3 | ดูแลน้อยลง | 3.63% |
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สรุปผลการสำรวจ : คนไทยกับวัคซีนโควิด-19
สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิตสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “คนไทยกับวัคซีนโควิด-19” จำนวน 1,570 คนสำรวจวันที่ 22 – 29 มกราคม 2564 พบว่าส่วนใหญ่ประชาชนรู้จักวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค (Pfyzer- BioNTech) มากที่สุดร้อยละ 64.27 รองลงมาคืออ๊อกฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-Astrazeneca) ร้อยละ 52.55 สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือผลข้างเคียงของวัคซีนร้อยละ 82.71 โดยต้องการจะฉีดวัคซีนแต่ขอดูผลข้างเคียงก่อนร้อยละ 65.99 ทั้งนี้ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะป้องกันโควิด-19 ได้ ร้อยละ 63.88 และหลังจากฉีดวัคซีนแล้วจะยังดูแลสุขภาพตัวเองเหมือนช่วงที่ผ่านมา ร้อยละ 60.83
เรื่องวัคซีนโควิด-19 เป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายตั้งคำถามต่อการบริหารงานของรัฐบาลเพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินงานของหลายประเทศต่างมีความคืบหน้าอย่างมากในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนความแตกต่างที่เห็นได้ชัดทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจทั้งในเรื่องยี่ห้อวัคซีนประสิทธิภาพผลข้างเคียงกระบวนการจัดซื้อความล่าช้าราคาและความโปร่งใสนับว่าเรื่องวัคซีนโควิด-19 เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลอย่างยิ่งในการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน
นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
จากผลสำรวจในเรื่อง “คนไทยกับวัคซีนโควิด-19” บ่งชี้ได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและติดตามข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทั้งในด้านของประสิทธิภาพ ราคา และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังจากการได้รับวัคซีน ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับความเชื่อมั่นของประชาชนในด้านความปลอดภัยของวัคซีน โดยสะท้อนจากผลสำรวจ ที่พบว่า ประชาชนยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนมากถึงร้อยละ 82.71 ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานทางภาครัฐ ที่ต้องดำเนินการเร่งชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบริษัท
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพแต่ประชาชนยังคงต้องมีการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเนื่องจากเชื้อโควิด-19 จะยังไม่ได้หายไปในระยะเวลาอันสั้นนี้การฉีดวัคซีนมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกทั้งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อลงดังนั้นการป้องกันตนเองโดยการใส่หน้ากากอนามัยล้างมืออย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัดยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันต่อไป
อ.ดร.วิทวัส รัตนถาวร
อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต