Digiqole ad

คดีเป้รักผู้การ 140ล้าน ยังไม่เงียบ ‘วัชรินทร์’รอง อธ.อัยการสอบสวนเรียกประชุมความคืบหน้าทีมสอบสวน 30 ต.ค.นี้ เเจ้งฟอร์มทีมอัยการสอบสวนชุดใหม่หลายคนเหตุ มีโยกย้ายออกจากสำนักงานสอบสวน ‘โจ๊ก’ส่ง รรท.ผบช.ภ.6 ร่วมประชุมเเทน

 คดีเป้รักผู้การ 140ล้าน ยังไม่เงียบ ‘วัชรินทร์’รอง อธ.อัยการสอบสวนเรียกประชุมความคืบหน้าทีมสอบสวน 30 ต.ค.นี้ เเจ้งฟอร์มทีมอัยการสอบสวนชุดใหม่หลายคนเหตุ มีโยกย้ายออกจากสำนักงานสอบสวน ‘โจ๊ก’ส่ง รรท.ผบช.ภ.6 ร่วมประชุมเเทน
Social sharing
Digiqole ad

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์) รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดีอาญาที่ 737/2566 ของสถานีตำรวจคูคต ซึ่งเป็นคดีระหว่าง นายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ กับพวกรวม 6 คน ผู้กล่าวหา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กับพวกรวม 10คน ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับ
ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯเเละข้อหาอื่นๆหลายข้อหา ได้มีหนังสือด่วนมากที่ อส 0033/1732 ถึงสำนักงานตำรวจเเห่งชาติเรื่อง แจ้งรายชื่อพนักงานอัยการผู้เข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (คณะทำงานใหม่)

ความว่าตามหนังสือที่อ้างถึง 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอทราบผลการพิจารณาแนวทางการดำเนินคดี พร้อมแจ้งได้ส่งเรื่องที่ผู้กล่าวหาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญาที่ 737/2566ของ สภ.อ.คูคต ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561มาตรา 61 และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนประชุมมีมติร่วมกันว่าการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาในคดีมีพฤติการณ์ การกระทำอันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 9 อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 374/2566 ลงวันที่21 มิ.ย.66 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งคดีนี้มีการกระทำเป็นความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯและมีความผิดอื่นที่เกี่ยวพันกันด้วย จึงเป็นกรณีการสอบสวนคดีความผิดตาม พรบ.นี้และความผิดอื่นที่เกี่ยวพันกัน โดยหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่พนักงานอัยการ อัยการสูงสุดจึงมอบหมายให้พนักงานอัยการคนหนึ่งคนใดในสำนักงานการสอบสวน เข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดีดังกล่าว ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯมาตรา 31วรรคสาม และพนักงานอัยการในสำนักงานการสอบสวนได้เข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนแล้ว

ต่อมามีพนักงานอัยการบางท่านที่ได้รับมอบหมายโยกย้าย ได้พ้นจากการปฏิบัติราชการในสำนักงานการสอบสวน เพื่อให้การเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ สำนักงานการสอบสวนจึงได้มอบหมายให้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีสำนักงานการสอบสวน , นายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 , นายชาตรี ฮ้อยก่ำ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 , นายฉัทปณัย รัตนพันธ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ ,ร.ต.ท. โสภณ เกษมพิบูลย์ไซย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ,นางสาววิลาสินี ศุภวิรัชบัญชา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , นางสาวทักษอร สุวรรณสายะอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , นางสาวบุษยภา เมณฑกา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , ร้อยตำรวจเอก อมตะ ชนะพงษ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , นายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวนคนหนึ่งคนใดเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดีอาญาที่ 737/2566ของ สภ.อ.คูคต และให้ท่านพร้อมคณะพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสอบสวนคดีนี้ต่อไป ในวันที่30 ต.ค.2566 เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุม ชั้น 6 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมคณะทำงานวันที่ 30 ต.ค.นี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รักษาราชการเเทน ผบช.ภ.6 เป็นผู้เเทนเข้าประชุมเพื่อรายงานผลให้ทราบ

Facebook Comments

Related post