
ข่าวมหาดไทย ลำดับ 3 ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดบูรณาการดำเนินมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่กลับจากพื้นที่เสี่ยงกักตนเอง 14 วัน และให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์ เพื่อหยุดยั้งการระบาดโควิด-19

ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดบูรณาการดำเนิ นมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่ กลับจากพื้นที่เสี่ยงกักตนเอง 14 วัน และให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์ เพื่อหยุดยั้งการระบาดโควิด-19
Advertisement
วันนี้ (5 ม.ค.64) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริ หารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 64 ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้กำหนดกรอบการปฏิบัติตามข้ อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริ หารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 ม.ค. 64 เพื่อให้จังหวัดและกรุ งเทพมหานครถือปฏิบัติให้เป็ นมาตรฐานเดียวกัน
เพื่อให้การดำเนินการเป็ นไปตามแนวทางที่ ศบค. กำหนด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิ ดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิ นในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่ งการและประสานกับผู้ว่าราชการจั งหวัดและผู้ว่าราชการกรุ งเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจั งหวัด (ผวจ.) ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ดำเนินการเพิ่มเติม 3 ด้าน คือ 1) เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนปฏิ บัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเต็มขีดความสามารถ หรือ DMHTT ได้แก่ เว้นระยะระหว่างกัน สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ/ หมอชนะ 2) ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และความตระหนักแก่ประชาชนให้ ความร่วมมือหากทราบว่าตนเองได้ เคยเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มี การพบผู้ติดเชื้อหรือ “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” ขอให้กักกันตนเองและหลีกเลี่ ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่นเป็ นเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้ ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลใกล้บ้านและให้ข้อมู ลที่แท้จริงกับแพทย์ และ 3) ปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรั ฐมนตรีที่กวดขันไม่ให้มีบ่ อนการพนันในพื้นที่ซึ่งเป็นจุ ดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยเคร่งครัด โดยให้ผวจ. และนายอำเภอ เข้มงวดกวดขันและประสานการปฏิบั ติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้ นที่อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมในการหาข่าว/ เบาะแสกรณีดังกล่าวด้วย
และสำหรับจังหวัดและกรุ งเทพมหานครที่กำหนดให้เป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” ให้ดำเนินการ ดังนี้ 1) ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้ ผวจ.ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้ วยโรคติดต่อโดยความเห็นชอบของ คกก.โรคติดต่อจังหวัดพิจารณาสั่ งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นใดที่เสี่ยงต่ อการแพร่โรค 2) การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้ ผวจ.เสนอ คกก.โรคติดต่อจังหวั ดกำหนดมาตรการจัดระเบียบการเข้ าใช้บริการ จำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน การจัดสถานที่ จัดให้มีระบบบันทึกผู้ใช้บริ การโดยใช้แอปพลิเคชันไทยชนะหรื อจดบันทึกข้อมูลให้เป็ นไปตามแนวปฏิบัติและมาตรการป้ องกันโรคตามที่ ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริ งและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ในกรณี คกก.โรคติดต่อจังหวัดพิจารณาแล้ วเห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่มี การแพร่ระบาดรุนแรง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้ องกำหนดเวลาห้ามนั่งบริโภคในร้ านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้กำหนดห้ามนั่งบริโภคในร้ านระหว่างเวลา 21.00 – 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยให้เป็นลักษณะของการจำหน่ ายแล้วนำกลับไปบริโภคที่อื่น 3) การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจั งหวัด ให้ดำเนิ นการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้ นที่ และต้องไม่เป็นการก่อความเดื อดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่ เหตุ โดย ผวจ. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่ นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) บูรณาการและประสานการปฏิบัติ จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับฝ่ ายความมั่นคงและตำรวจ ตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจในเส้ นทางคมนาคมที่เป็นเส้นทางหลักพื้ นที่รอยต่อระหว่าง “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” กับ “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” และพื้นที่รอยต่อระหว่าง “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” กับ “พื้นที่ควบคุม” หากพบบุคคลที่มีความเสี่ยงหรื อเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสู งสุด ให้บันทึกข้อมูลเพื่อสามารถสื บค้นได้ และดำเนินการตามมาตรการที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมอบหมายนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการกับทุกภาคส่วน จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดิ นทางในเส้นทางรองในตำบล หมู่บ้าน และชุมชน ให้ประสานสอดคล้องกับการจัดตั้ งจุดตรวจ/ด่านตรวจในเส้นทางหลั ก พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนทราบมาตรการตรวจคั ดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด และขอความร่วมมืองดหรื อชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่ จังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น หรือเป็นกรณีการขนส่งสินค้าอุ ปโภค บริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพ การปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบสื่ อสารโทรคมนาคม สาธารณูปโภค สาธารณูปการ โดยต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่ อเจ้าหน้าที่ รวมทั้งรับการตรวจคัดกรองและปฏิ บัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ ทางราชการกำหนด อันอาจทำให้ไม่ได้รั บความสะดวกในการเดินทางและต้ องใช้ระยะเวลาการเดินทางมากกว่ าปกติ
นอกจากนี้ ในกรณีจังหวัดพื้นที่ควบคุมสู งสุดและมีแนวโน้มสถานการณ์ การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ให้จังหวัดประชุม คกก.โรคติดต่อจังหวัดเตรียมจั ดตั้งโรงพยาบาลสนาม เตรียมพร้อมวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ ยวข้องเพื่อรองรับการบริหารจั ดการ โดยให้พิ จารณาความเหมาะสมของสถานที่ และชี้แจงสร้างความเข้าใจกั บประชาชนด้วย และ ให้ ผวจ. ประสานกับผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ แสวงหาความร่วมมือการปฏิบัติ การดูแลผู้ใช้แรงงานร่วมกั บการปฏิบัติการของภาคราชการ โดยแนะนำให้มีการนำมาตรการที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด หากพบกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ ยงให้ดำเนินการตามแนวทางที่ ทางราชการกำหนด โดยพิจารณาร่วมกันระหว่างหน่ วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้ นที่
Advertisement
Facebook Comments