การกลับมาคืนฟอร์มของ Angelique Kerber
สตุ๊ทการ์ท.
Angelique Kerber เคยคว้าชัยในศึก Porsche Tennis Grand Prix 57 ถึง 2 สมัย เมื่อปี 2015 และ 2016 ไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกยินดี เมื่อได้หวนกลับมายังสตุ๊ทการ์ทอีกครั้ง “พวกเรานักเทนนิสต่างหลงรัก ทัวร์นาเมนต์นี้กันทั้งนั้น สำหรับเราที่แห่งนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสอันดีงามของรายการ WTA Tour” นักเทนนิสสาวชาวเยอรมันผู้ซึ่งมีความทรงจำประทับใจมากมายที่ Porsche Arena กล่าวพร้อมกับการปรากฏตัวในสนาม Porsche Arena “ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางสายอาชีพของฉันมาโดยตลอด ฉันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่สำคัญมากมายได้จากที่นี่ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ฉันก้าวขึ้นไปในระดับโลก ฉันได้เรียนรู้แม้ในวันที่ฉันพบกับความพ่ายแพ้”
การออกสตาร์ทปี 2021 ของเธอในการแข่งขันเทนนิสนั้นที่ค่อนข้างไม่มีอะไรแน่นอน ถึงแม้การระบาดของไวรัสโคโรนาจะทำให้เธอมีเวลาเตรียมตัวนานขึ้นสำหรับการแข่งขัน Australian Open และเหมือนจะเป็นข้อได้เปรียบ แต่ในทันทีที่เดินทางถึงเมือง เมลเบิร์น ด้วยความมั่นใจ เธอกลับต้องถูกกักตัวอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินเดียวกันมีผลตรวจเป็นบวก นั่นหมายถึงโอกาสของเธอในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับ grand slam รายการแรกของปี ต้องยุติลงโดยปริยาย “การถูกกักตัวทำให้ฉันสะดุดไปถึง 2 เดือนเต็ม” จนถึงตอนนี้เธอรูสึกดีใจที่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง “ฉันรู้สึกว่าฟอร์มการเล่นกลับมาเต็มศักยภาพและการแข่งขันเป็นไปด้วยดีอีกครั้ง”
หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลด้วยความยากลำบาก การจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่พร้อมลงสนามได้อีกครั้งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Brand Ambassador ของปอร์เช่ เมื่อปีที่แล้วเธอได้ลงเล่นเพียงไม่กี่ทัวร์นาเมนต์ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอาการบาดเจ็บ และอีกสาเหตุหนึ่งคือหลายรายการไม่สามารถจัดการแข่งขันได้เนื่องจากวิกฤตการณ์ไวรัสโคโรนา ส่งผลให้เธอไม่ได้ลงสนามเพื่ออุ่นเครื่องไปนาน “ไม่ว่าการฝึกซ้อมจะออกมาดีเยี่ยมแค่ไหน เทียบไม่ได้เลยกับการลงสนามในทัวร์นาเมนต์จริงๆ” เธอกล่าวต่อไปอีกว่า “ฉันคือนักเทนนิสที่ต้องการลงสนามให้บ่อยมากที่สุด มิฉะนั้นจะยากยิ่งขึ้นสำหรับการค้นหาจังหวะในการเล่นที่ลงตัวสำหรับฤดูกาลนี้”
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลกระทบกับการแข่งขันเทนนิส WTA Tour สำหรับผู้เล่นหลายราย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับวิถีชีวิตที่ถูกจำกัดด้วยไวรัสโคโรนา แต่อย่างไรก็ตาม Angelique Kerber ไม่ต้องการที่จะตำหนิในประเด็นดังกล่าว “เมื่อเปรียบเทียบกับผู้คนส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องก้มหน้ารับภาระจากข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเขา เราในฐานะนักเทนนิสอาชีพอยู่ในสถานะที่มักจะได้รับสิทธิพิเศษซึ่งอย่างน้อยพวกเรายังสามารถทำงานได้” เธอเสริม “เรารู้สึกโชคดีที่สามารถจัดการแข่งขันได้ตามพันธกิจและนี่คือสิ่งจำเป็นที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์คงอยู่ต่อไปท่ามกลางสภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น”
บรรดานักเทนนิสระดับโลกจะมารวมตัวเพื่อร่วมแข่งขันรายการ Porsche Tennis Grand Prix ตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 25 เมษายนที่ผ่านมา โดยมี 7 คนที่มีรายชื่ออยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก และมีนักเทนนิสรวมทั้งสิ้น 14 คน จาก 20 อันดับแรก ลงสนามเพื่อประลองแร็คเกตอย่างดุเดือดที่ Porsche Arena โดยมี Angelique Kerber ที่เป็นเหมือนจุดสูงสุดที่ท้าทายให้คู่แข่งมาโค่นล้ม “สำหรับฉันคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคือแรงกระตุ้นที่มักจะท้าทายตัวฉันเองอยู่เสมอ” เธอกล่าวอย่างมั่นใจ การคว้าแชมป์สมัยแรกที่สตุ๊ทการ์ทเมื่อปี 2015 ปะทะกับ Caroline Wozniacki นักเทนนิสหญิงหมายเลข 1 ของโลก ณ ขณะนั้น ซึ่งเธอต้องเผชิญหน้าในรอบสุดท้าย ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งแรกของเธอยังคงเป็นความทรงจำที่ไม่จางหาย “การเอาชนะได้ในทัวร์นาเมนต์สำคัญครั้งแรกเป็นหนึ่งสิ่งในชีวิตที่คุณไม่เคยลืม โดยเฉพาะรอบชิงชนะเลิศที่ต้องต่อสู้กับ Caroline มันเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นจริงๆ” หลังจากจบเซ็ตที่ 3 เธอสามารถปิดแมตช์ลงได้อย่างสวยงาม พร้อมกับเสียงร้องยินดีของผู้ชมที่ให้การสนับสนุน เธอยังมีความทรงจำที่ดีในชัยชนะสมัยที่ 2 บนสังเวียน Porsche Arena – คู่แข่งที่เธอต้องเผชิญในปี 2016 คือ Laura Siegemund “เธอเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้และต้องผ่านเข้ามาตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ แรงกดดันทั้งหมดถูกส่งมาที่ฉันในฐานะตัวเต็งของรายการ นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สำคัญมากในอาชีพนักกีฬาของฉันเลยทีเดียว”
เมื่อมาเยือน Porsche Arena นั้น Angelique Kerber ต้องการลงสนามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อคืนฟอร์มการเล่นของเธอให้กลับมา และเตรียมพร้อมสู่การเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ท้าทายต่อไป “ยังมีทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญตามมาและมันเป็นการแข่งขันที่ฉันเฝ้ารอคอย” เธอเน้นย้ำ แต่นั่นคือทุกสิ่งที่เธอพลาดไประหว่างช่วงเวลาของไวรัสโคโรนางั้นหรือ? “แน่นอนที่สุดว่าต้องเป็นบรรดาแฟนๆ” เธอกล่าวต่อแทบจะทันที “ฉันมักจะได้รับแรงกระตุ้นให้ก้าวออกมาบนคอร์ต ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเมื่อมองไปยังแฟนๆ ที่ร่วมฉลองชัยชนะไปด้วยกันและให้กำลังใจกัน ทำให้ฉันรู้สึกว่านี่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของฉัน สำหรับฉัน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สวยงามที่สุดในเส้นทางนักเทนนิสมืออาชีพ”
