“กัญญ์เฮิร์บ” ยาต้านอักเสบประเภทครีมและสเปยร์จากสมุนไพรขมิ้นชันและไพร และเครื่องสำอางธรรมชาติ ผ่านวิกฤตโควิดมาด้วยเงินทุนสนับสนุน SME D Bank
“กัญญ์เฮิร์บ” ยาต้านอักเสบประเภทครีมและสเปยร์จากสมุนไพรขมิ้นชันและไพร และเครื่องสำอางธรรมชาติ ผ่านวิกฤตโควิดมาด้วยเงินทุนสนับสนุน SME D Bank
นางสาวกัญญ์ภัสสร์ พลชัยศรี เจ้าของบริษัท กัญญ์ เฮิร์บ ( ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจด้านสมุนไพร ประเภทยาสมุนไพร และ เครื่องสำอางสมุนไพร โดยเริ่มต้นจากการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรขมิ้นชัน และไพรมาผลิตเป็นยาสมุนไพรต้านการอักเสบ ประเภทยาทาภายนอก มีทั้งแบบครีมและสเปรย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ได้ผ่านกระบวนการวิจัยจาก สวทช. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่หลังจากที่ พรบ.กฎหมายใหม่เกี่ยวกับยาสมุนไพรเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนใหม่ ทำให้หยุดผลิต เพื่อเข้ากระบวนการของขึ้นทะเบียนใหม่ กับทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็น กรมการแพทย์แผนไทย และ การขึ้นทะเบียนกับ อย. ทำให้เราต้องเปลี่ยนจาก หจก. มาเป็น บริษัท
และได้รับการสนับสนุนจากทาง ธนาคารเอสเอ็มอี ดี แบงก์ นอกจากด้านเงินทุนที่ทางธนาคารช่วยเรามาตลอด 6 ปี ในฐานะลูกค้าของธนาคาร ทางธนาคารยังให้ความรู้ว่า การเปิดบริษัทจะต้องทำอย่างไร เราจะต้องทำบัญชีให้ถูกต้อง จะทำให้เราสามารถกู้เงินได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งการช่วยเหลือของธนาคาร เราได้รับมาตั้งแต่ เปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางเล็กที่เชียงใหม่ เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ถ้าธนาคารไม่ให้การช่วยเหลือในวันนั้น เราก็คงจะไม่สามารถเดินมาได้ถึงวันนี้
โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมา สินค้าของเราได้รับผลกระทบ และประกอบกับ เป็นช่วงที่ พรบ.กฎหมายใหม่สมุนไพรออกมาทำให้การขายยาสมุนไพร ต้องชะลอไปก่อน แต่ทาง อย. อนุญาตให้เราขายได้เฉพาะช่องทางออนไลน์ ที่เป็นลูกค้าเก่า เท่านั้น ซึ่งในส่วนของยาสมุนไพร เราโชคดีที่ได้ โรงงานผลิตยา แห่งหนึ่ง ได้นำยาสมุนไพรของเราไปผลิตให้ และได้ทำการยื่นขอทะเบียนอย.ให้ คาดว่าจะกลับมาจำหน่ายยาสมุนไพรได้อีกในอนาคตอันใกล้นี้
ในช่วงนี้ เรามุ่งไปที่การทำตลาดเครื่องสำอาง จากธรรมชาติ ชุดแรกที่ผลิตจากมะพร้าว และ น้ำนมโค ซึ่งในส่วนของ เครื่องสำอางเข้าร่วมในโครงการบ่มเพาะของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พัฒนาและยกระดับสู่ตลาดสากล ปัจจุบัน ทดสอบตลาดเครื่องสำอางเซรั่มบำรุงผิวจากสารสกัดน้ำมันมะพร้าว ใช้ช่องทางออนไลน์ โดยส่งสินค้าให้อินฟูลเอนเซอร์ ช่วยขายและแบ่งรายได้ให้กับเขา ตั้งเป้าไว้ว่าจะขายสัก 50 ชุดในเดือนแรก ตอนนี้ ขายไปได้กว่า 30 ชุดแล้ว ถือว่าไปได้ด้วยดี
กัญญ์ภัสสร์ กล่าวว่า ตนเองก็ยังได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากร ในเวทีต่างๆ แชร์ประสบการณ์การเป็น Startup และนำเครสเรื่องของการกู้เงินจากธนาคารเอสเอ็มอีอย่างไรให้สามารถกู้ผ่านได้ไปเล่าให้กับ ผู้ประกอบการ หรือวิสาหกิจชุมชน ที่เราไปบรรยายด้วย เพราะคนในชุมชนหลายคนมองว่า การกู้เงินจาเอสเอ็มอีดีแบงก์นั้นยาก เราอยากจะบอกว่าจริงไม่ได้ยาก ถ้าเราทำอย่างถูกขั้นตอน ทำตามคำแนะนำ และทำบัญชีให้ถูกต้อง ก็สามารถกู้ได้ นำประสบการณ์ตรงของเราไปเล่าให้ชาวบ้าน หรือชุมชนที่ทำธุรกิจและต้องการกู้เงิน ว่ามี ธนาคารเอสเอ็มอี ดีแบงก์ที่พร้อมจะช่วยเหลือ ทุกคน
ทั้งนี้ ยังได้อยากจะบอกกับทุกคนว่า อย่าได้กลัวที่จะเริ่มต้น ที่จะมาขอความช่วยเหลือและทำงานกับภาครัฐ เพราะหน่วยงานต่างๆ พร้อมให้การช่วยเหลือ ถ้าเรามีไอเดีย ก็นำไอเดียนั้นมาเสนอ และขอรับความช่วยเหลือได้ เช่นเดียวกับตัวเอง มาจากจุดเริ่มต้น คิดว่า เรามีไอเดียมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ดี และมีเป้าหมายต้องการจะนำโปรดักส์ของเราตัวนี้ มาช่วยรักษาแม่ และเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือ และเราก็ได้รับการช่วยเหลือ จนได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรต้านการอักเสบ กัญญ์เฮิร์บเหมือนอย่างทุกวันนี้
หรือ แม้แต่เอสเอ็มแบงก์ แม้จะเป็นหน่วยงานด้านเงินทุน แต่ยังคอยให้การช่วยเหลือบ่มเพาะ ส่วนเงินทุนที่ได้จากเอสเอ็มอีดีแบงก์ จะดูงบการเงินของเรา ว่าจะส่งเสริมไปในทิศทางไหน ตลอดระยะเวลา 6 ปี ก็ได้รับการสนับสนุนทางแบงก์มาตลอด เพราะเราก็ทำตามกฎกติกา ทำให้สามารถกู้เงินกับทางเอสเอ็มอีดีแบงก์ได้
ในอนาคตที่วางเป้าหมาย ต้องการส่งออกยาสมุนไพรของเราไปขายยังประเทศจีน เพราะเราเคยได้รับข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ ว่าประเทศจีนต้องการสมุนไพรไทย แต่ต้องเป็นสมุนไพรไทยที่ได้รับเลขยาจาก อย.ในประเทศไทย ถึงจะไปประเทศจีนได้ เพราะมีกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งถ้าทำตามกฎหมายง่ายถ้าการเกิดปัญหา มีท่านทูตในแต่ละประเทศ คอยให้การช่วยเหลือ สุดท้าย เครสของเรา คือ การนำไอเดียโปรดักส์ต้องการรักษาแม่ มาต่อยอดการทำธุรกิจ และนำเอางานวิจัยมาช่วยเพื่อให้เกิดการยอมรับ
ติดต่อ กัญญ์ภัสสร์ พลชัยศรี / E-mail : kannherbs@gmail.com และ www.kannherbs.com
