Digiqole ad

กอช. ผนึก ทรูมันนี่ สนับสนุนผู้ประกอบอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบ เปิดให้ออมสบาย ได้บำนาญ กับ กอช. ผ่าน ทรูมันนี่

 กอช. ผนึก ทรูมันนี่ สนับสนุนผู้ประกอบอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบ เปิดให้ออมสบาย ได้บำนาญ กับ กอช. ผ่าน ทรูมันนี่
Social sharing

Digiqole ad

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมกับ ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผสานความร่วมมือเพื่อส่งเสริมกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใด ๆ รองรับในวัยเกษียณอายุ ให้สามารถเข้าถึงกองทุนการออมภาคสมัครใจของ กอช. แบบออมสบาย ได้บำนาญ ง่ายขึ้น ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ชูจุดเด่นเปิดบัญชีง่าย ๆ ใน 3 นาที เพิ่มอิสระในการออมได้ตามสะดวกและไม่จำกัดจำนวนครั้ง เริ่มต้นเพียง 50 บาท ก็มีโอกาสรับเงินสมทบจาก รัฐฯ สูงสุดถึง 100 เปอร์เซ็นต์* (ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี) และสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 30,000 บาทต่อปี* เพื่อส่งเสริมให้เรื่องการออมเป็นไปได้สำหรับทุกคน

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า “ในปัจจุบันที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรกลุ่มคนวัยทำงานก็มีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุวัยเกษียณในอนาคตได้ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าวนี้ และได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดตั้งระบบการออมเงินภาคสมัครใจสำหรับแรงงานนอกระบบและผู้ประกอบอาชีพอิสระผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังวัยเกษียณอายุของคนไทย ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียมกันในทุกกลุ่มอาชีพ และในฐานะตัวแทนจากภาครัฐ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ภาคเอกชน เช่น ทรูมันนี่ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินและแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมและเข้าถึงประชาชนหลายกลุ่มและช่วงวัย เข้ามาร่วมเป็นภาคีผลักดันนโยบายส่งเสริมการออมของรัฐบาลให้เดินหน้า เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีและเป็นกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป”

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เปิดเผยว่า “กอช. มุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์องค์กรที่ว่า ‘มุ่งสร้างฐานการออม ขับเคลื่อนบำนาญภาคประชาชนอย่างทั่วถึง’ ผ่าน Digital Marketing ประชาชนที่มีอายุ 15 – 60 ปี สามารถเริ่มออมตั้งแต่ 50 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี* และรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
• อายุ 15 – 30 ปี รัฐสบทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
• อายุ 30 – 50 ปี รัฐสบทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
• อายุ 50 – 60 ปี รัฐสบทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*

ทำให้ปัจจุบันมีฐานสมาชิกกว่า 2.58 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการในรูปแบบผ่านหน่วยงานในพื้นที่สูงถึง 85% กอช. จึงมุ่งพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าถึงบริการในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน

ซึ่งจากสถิติภาพรวมการออมเงินเพื่อการเกษียณของคนไทยในปี พ.ศ. 2566 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมการออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการคลี่คลายลงของสถานการณ์โควิดรวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยและตลาดแรงงานไทย โดยเห็นได้จากแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิกและจำนวนเงินในระบบกองทุนการออมเพื่อการเกษียณต่าง ๆ ของคนไทย โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นมีปัจจัยสำคัญมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อการเกษียณ อีกทั้งแผนงานของ กอช. ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการออม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ธนาคาร ผู้ให้บริการทางการเงิน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในครั้งนี้ ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ตรงกันของทั้ง 2 หน่วยงาน

และด้วยศักยภาพในการเข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมากของทรูมันนี่ ในรูปแบบบริการออนไลน์ที่ครอบคลุมผู้ใช้งานทั่วประเทศ รวมถึงความหลากหลายในสาขาอาชีพ จึงเชื่อมั่นได้ว่าสมาชิก กอช. รวมถึงกลุ่มเป้าหมาย จะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ตลอดจนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ด้านการออมได้อย่างต่อเนื่องและทั่วถึงต่อไป”

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวเสริมว่า “ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำ ทรูมันนี่ ยึดมั่นพันธกิจในการช่วยให้คนไทยทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลายเพื่อมอบชีวิตที่ดีขึ้นผ่านทั้งบริการใช้จ่าย ออม และลงทุน โดยในปัจจุบันทรูมันนี่มีผู้ใช้งานกว่า 27 ล้านคนทั่วประเทศ และล่าสุดยังได้รับการจัดอันดับเป็นแอปที่ได้รับการดาวน์โหลดมากสุดในประเทศไทย** ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าแอปทรูมันนี่ได้รับความนิยมสูงสุดและสามารถให้บริการทางการเงินครอบคลุมผู้ใช้หลากหลายกลุ่มอายุและอาชีพ ซึ่งรวมถึงแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า รวมไปถึงเกษตรกร ฯลฯ ความร่วมมือกับ กอช. ในครั้งนี้ จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงการออมแบบเดิมของแรงงานเหล่านี้ ให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการออมเพื่อสร้างสุขภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ด้วยบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่ ทั้งนี้ ภายหลังเปิดทดลองให้บริการไม่ถึงสองเดือน มียอดออม กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท และเราคาดการณ์ว่ายอดออมดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท และมีผู้ใช้รวม 1 ล้านบัญชีภายในสิ้นปี 2567”

ผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีและใช้งานบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านทรูมันนี่ได้ง่าย ๆ ใน 3 นาที เพียงดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปพลิเคชันทรูมันนี่ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เข้าไปที่หน้าแอปและกดเมนู “ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม” จากนั้นกดอนุญาต เพื่อให้ทำการแชร์ข้อมูลเพื่อการสมัครและยอมรับเงื่อนไขและให้ความยินยอมการสมัคร กอช. กรอกข้อมูลที่อยู่ให้ครบถ้วน และเลือกช่องทางการหักเงินเพื่อฝากเงินเข้าบัญชี กอช. เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มฝากเงินออมกับ กอช. ด้วยจำนวนเงินที่ต้องการ โดยมีขั้นต่ำเพียง 50 บาท และไม่จำเป็นต้องฝากเงินเข้าบัญชี กอช. เป็นประจำทุกเดือนหรือด้วยจำนวนที่เท่ากันทุกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบยอดเงินออมสะสมในบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับสิทธิประโยชน์ เงินสมทบจากรัฐสูงสุดถึง 100 เปอร์เซ็นต์* สิทธิในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท/ปี และรับเงินหมื่นรายเดือนหลังเกษียณ*

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่ ได้ที่ https://www.truemoney.com/national-savingsfund#detail-highlights-apply

Facebook Comments


Social sharing

Related post