Digiqole ad

“กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” โต้เฟคนิวส์อ้างบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงติดโควิดเพิ่ม

 “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” โต้เฟคนิวส์อ้างบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงติดโควิดเพิ่ม
Social sharing
Digiqole ad

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าขุดการศึกษาหน่วยงานวิจัยอิสระโต้ข่าวกลุ่มรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ยันไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสี่ยงป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น เตือนปล่อยเฟกนิวส์เรื่องโควิด ทำคนหวาดกลัว เข้าข่ายผิดกฎหมายเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” และเฟซบุ๊คเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” กล่าวถึงผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาที่เผยแพร่โดยกลุ่มรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ที่อ้างว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจะพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนเพิ่มขึ้น ว่า “ข้อมูลที่นำเสนอในข่าวดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะข้อสรุปจากในรายงานจริง ๆ ระบุว่า แม้ว่าผลการศึกษาจะชี้ให้เห็นความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 และการเสียชีวิตในระดับรัฐ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือเสียชีวิตจากโควิด-19 จริงๆ ในกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้น จึงไม่สามารถระบุความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ การที่ออกมาให้ข้อมูลผิด ๆ กับสังคมเท่ากับเป็นการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน สร้างความหวาดกลัวตื่นตระหนก ซึ่งอาจเข้าข่ายสร้างเฟกนิวส์ เป็นความผิดตาม พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้”

นายอาสา ศาลิคุปต กล่าวเสริมว่า “ผลการวิจัยอีกฉบับจากศูนย์วิจัยเมโย คลินิก ซึ่งเป็นองค์กรด้านการแพทย์และการวิจัยอิสระ ระบุว่าไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับการติดโรคโควิด-19 ดังนั้นจึงไม่ควรรีบด่วนสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสี่ยงติดโควิดเพิ่มเพราะหลักฐานเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน”

งานวิจัยข้อหัว Electronic Cigarette Use Is Not Associated with COVID-19 Diagnosis ได้รับการติมพ์ในวารสารการดูแลปฐมวัยและสุขภาพชุมชน (Journal of Primary Care & Community Health) ทำขึ้นในกลุ่มตัวอย่างเกือบ 70,000 คน โดยแยกผู้ป่วยตามประวัติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือการสูบบุหรี่ทั้งในปัจจุบันและในอดีต ซึ่งเป็นการออกแบบการวิจัยที่ใกล้เคียงความจริงสำหรับการตรวจหาว่าการบริโภคนิโคตินรูปแบบใดที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ที่เพิ่มขึ้น ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวไม่มีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ขณะที่ผู้สูบบุหรี่อย่างเดียวมีความเสี่ยงลดลง ซึ่งสรุปได้ว่า แม้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ SARS-CoV-2

นายอาสา ย้ำอีกว่า “ล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้ออกรายงานเรื่องเกี่ยวกับการระบาดของยาสูบในระดับโลก ซึ่งรายงานฉบับนี้ WHO ยังคงมีจุดยืนที่ละเลยต่อแนวทางการลดอันตรายจากยาสูบและปฏิเสธนวัตกรรมใหม่ๆ เช่นบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนซึ่งจะทำให้ผู้สูบบุหรี่กว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกอาจต้องสูญเสียโอกาสในการเข้าถึงทางเลือกที่อันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่หากรัฐบาลประเทศต่างๆ ทำตามคำแนะนำในรายงานฉบับนี้ ในทางกลับกันหน่วยงานสาธารณสุขในหลายประเทศ เช่น อ.ย. ของสหรัฐอเมริกา สาธารณสุขของอังกฤษ สหภาพยุโรป นิวซีแลนด์ ต่างสนับสนุนให้มีการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายและมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน เพราะเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นแนวทางช่วยแก้ปัญหาอันตรายจากการสูบบุหรี่ได้ ประเทศไทยจึงควรเร่งทบทวนการแบนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตคนไทยกว่า 10 ล้านคนที่ยังบริโภคบุหรี่และยาเส้นอยู่ในปัจจุบัน”

 

Facebook Comments

Related post