Digiqole ad

กรมศุลกากรบูรณาการ AITF จับหญิงโปแลนด์ ซุกเฮโรอีน มูลค่ากว่า 10 ลบ. คาสุวรรณภูมิ

 กรมศุลกากรบูรณาการ AITF จับหญิงโปแลนด์ ซุกเฮโรอีน มูลค่ากว่า 10 ลบ. คาสุวรรณภูมิ
Social sharing

Digiqole ad

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย

โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดทุกช่องทาง

โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdiction Task Force: AITF) ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย

ได้เข้าตรวจค้นห้องพักหญิงชาวโปแลนด์เพื่อค้นหายาเสพติด เนื่องจากกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปราม มีการสืบสวนและประสานงานด้านการข่าว
ยาเสพติดกับหน่วยงานต่างประเทศ เกี่ยวกับเครือข่ายลักลอบส่งออกยาเสพติดให้โทษผ่านทางท่าอากาศยาน


พบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงสัญชาติโปแลนด์ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรต้นทางจากประเทศฮังการี ของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 จึงร่วมกับ ชุดปฏิบัติการ AITF ติดตาม เฝ้าระวังพฤติกรรมผู้โดยสารรายดังกล่าว โดยมีข้อมูลว่าหญิงเป้าหมายเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์และจะออกจากโรงแรมในวันที่ 3 เมษายน 2567 เพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในคืนวันดังกล่าว และจากการติดตามเฝ้าระวัง พบว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 มีหญิงไทย ได้นำกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากสีดำมาส่งมอบให้หญิงเป้าหมายชาวโปแลนด์ จึงแบ่งกำลังเฝ้าติดตามหญิงไทยคนดังกล่าวด้วย

จนกระทั่งเช้าวันที่ 3 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสัมภาระที่ห้องพักของหญิงชาวโปแลนด์ พบเฮโรอีนซุกซ่อนในพื้นช่องลับและกระเป๋าสตรีที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางล้อลากที่มีหญิงไทยนำมาส่งมอบให้ จำนวน 3,560 กรัม มูลค่า 10,680,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ ที่เฝ้าติดตามหญิงไทยจึงเชิญมาสอบสวนเพิ่มเติมได้ความว่า ตนนำกระเป๋าดังกล่าวเข้ามาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีชายผิวดำ ไม่ทราบชื่อเป็นผู้สั่งการให้ตนนำกระเป๋ามาให้หญิงชาวโปแลนด์ ในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและขยายผลต่อไป กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด

ในวันเดียวกันทางศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ กรมศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปราม และสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ทำการตรวจสอบพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูงในการลักลอบนำยาเสพติดส่งออกไปเกาหลีใต้ สำแดงชนิดสินค้า เป็น “Coffee” จำนวน 1 หีบห่อ น้ำหนักรวม 5.790 กิโลกรัม จึงทำการเปิดตรวจกล่องพัสดุ ผลปรากฏว่า พบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไอซ์ (Methamphetamine) ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส ซุกซ่อนอยู่ภายในซองลูกอม น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,620 กรัม มูลค่า 2,772,000 บาท กรณีดังกล่าวเป็นการพยายามลักลอบส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine) ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 และ มาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด พนักงานศุลกากรจึงได้ยึดยาเสพติดดังกล่าวไว้เป็นของกลาง เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับในปีงบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 3 เมษายน 2567) กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติด ทั้งสิ้น 76 ราย มูลค่ารวมกว่า 425 ล้านบาท

Facebook Comments


Social sharing

Related post