Digiqole ad

กรมการพัฒนาชุมชน เปิดหลักสูตรยกมาตรฐานโอทอปไทย สู่สินค้าพรีเมี่ยมตีตลาดโลก

 กรมการพัฒนาชุมชน เปิดหลักสูตรยกมาตรฐานโอทอปไทย สู่สินค้าพรีเมี่ยมตีตลาดโลก
Social sharing
Digiqole ad

กรมการพัฒนาชุมชน นำทัพผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์-การตลาด เปิดหลักสูตรพัฒนา Quadrant D ติวเข้มผู้ผลิตโอทอป กลุ่มของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก 475 รายทั่วประเทศ ยกระดับเป็นสินค้าพรีเมี่ยม สร้างแบรนด์พร้อมจับคู่ธุรกิจ เปิดช่องทางโกยเงิน ทั้งในและตลาดต่างประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานราก

นายวรงค์ แสงเมือง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชนเปิดโครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (Quadrant D) ให้มีคุณภาพมาตรฐาน ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP จากการขาดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพ รูปแบบผลิตภัณฑ์ และการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ อย่างครบวงจร ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่โด่นเด่นและสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ รวมทั้งมีปัญหาการพัฒนาสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ส่งผลให้จำหน่ายสินค้าได้ในปริมาณน้อย หรือไม่ได้เลย หรือจำหน่ายได้ในราคาต่ำส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ

            โครงการดังกล่าวเปิดให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มของใช้  ของตกแต่ง ของที่ระลึก จำนวน 475 ราย ทั่วประเทศ เข้ารับการถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การสร้างตราสินค้าและด้านการตลาด ภายใต้แนวคิดหลักการตลาดนำการผลิต “ดูดีมีสไตล์”  ทั้งสิ้น 14 หลักสูตร ในรูปแบบบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E -Learning) บนระบบออนไลน์ของ Line Official Account : Tamdeemark  ซึ่งสามารถกลับมาดูซ้ำเพื่อทำความเข้าใจได้ตลอดเวลา และสามารถขอรับคำปรึกษาผ่านระบบดังกล่าวได้ นอกจากนั้นการอบรมจะมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีทำหน้าที่ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ 1 ท่านรับผิดชอบผู้ประกอบการจำนวน 15-20 ราย โดยมีระยะเวลาดำเนินการโครงการทั้งสิ้น 150 วัน

            “กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP มีความสำคัญต่อรากฐานทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน เห็นปัญหาของกลุ่มนี้โดยเฉพาะการปรับตัวสู่การพัฒนาหรือ Quadrant D ดังนั้นโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ เพราะได้รวมผู้เชี่ยวชาญจริงมาถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์โดยตรงที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ภายใต้แนวคิดการอบรมที่ยึดหลักการตลาดนำการผลิต และสิ่งที่สำคัญคือการที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ได้จริง” นายวรงค์ กล่าว

Facebook Comments

Related post